จับตา 7 ธุรกิจน่าลงทุนปี 2020

ธุรกิจที่มาแรงในปี 2020 นี้ ต้องเป็นเทรนด์ธุรกิจที่มีแนวโน้มที่จะตรงกับไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมของลูกค้า จึงจะอยู่รอดและประสบความสำเร็จ และต้องเป็นธุรกิจมาแรงและจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุดในปีหน้า แถมยังจะคงได้รับความนิยมต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตโดยตรง และวันนี้ SI มี 7 ธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2020 นี้มาฝากกันค่ะ

1. ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ

จากเทรนด์อาหารและเครื่องดื่มปี 2020 นั้น จะเห็นว่าลูกค้าจะหันมาใส่ใจสุขภาพเพิ่มมากขึ้นไปอีก คือมีตั้งแต่เริ่มใช้โปรตีนสายพันธุ์ใหม่ หรือ Plant-based food แทนเนื้อสัตว์ มีการดื่มเครื่องดื่มทางเลือกที่มีน้ำตาลน้อย เริ่มมีอาหารเพื่อสุขภาพพร้อมทานมากขึ้น ทั้งยังมีการให้ความสำคัญกับอาหารผู้สูงอายุและโภชนาการเฉพาะบุคคลด้วย ดังนั้นหากลองหันมาจับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพอย่างขายอาหารและเครื่องดื่ม หรือเปิดฟิตเนสและให้คำปรึกษาทางด้านสุขภาพก็น่าจะอินเทรนด์ตลาดและทำกำไรได้ไม่น้อย

2. ธุรกิจเกี่ยวกับความงาม

เรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องที่ไม่เคยล้าสมัยอยู่แล้ว นั่นก็เพราะว่าคนเราอยากดูดีเสมอ แล้วอีกอย่างธุรกิจความสวยความงามก็เป็นธุรกิจที่ได้รับการตอบรับดีเสมอมา ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ามีแบรนด์น้อย-ใหญ่ผุดขึ้นมาไม่หยุดในตลาดของไทย แล้วจากการศึกษาของ EuroMonitor เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาก็พบว่าธุรกิจอาหารเสริมของไทยมีมูลค่ามากกว่า 6.67 แสนล้านบาท ซึ่งหนึ่งในธุรกิจอาหารเสริมที่เติมโตและมีมูลค่าสูงก็คือ อาหารเสริมความงาม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจเกี่ยวกับความงามจะเป็นธุรกิจที่น่าลงทุนในปี 2020 นี้

3. ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ

แนวโน้มเทรนด์ธุรกิจอาหารในปี 2020 นั้นจะพบว่ามีการให้ความสำคัญกับอาหารผู้สูงอายุมากขึ้น และมีการศึกษาพบว่าประเทศไทยของเรากำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวเร็ว ๆ นี้ โดยลูกค้ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ทั้งยังชอบมองหาสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ ดังนั้นธุรกิจน่าลงทุนในปี 2020 ที่จะถึงนี้จึงหนีไม่พ้นธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุนั่นเอง ลองมองหาทางเลือกในการทำธุรกิจอย่างการดูแลผู้สูงวัย อาหาร ไลฟ์สไตล์ หรือกิจกรรมสันทนาการ ก็น่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนอยู่เหมือนกัน

4. ธุรกิจเกี่ยวกับแม่และเด็ก

ไม่ว่าจะกี่ยุคหรือกี่สมัย พ่อแม่ก็ยังคงต้องหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกอยู่เสมอ แล้วจะมีไอเดียทำธุรกิจไหนที่ดีไปกว่าการขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับแม่และเด็กล่ะ จริงไหม? เพราะฉะนั้นธุรกิจที่น่าสนใจในปี 2020 ก็จะเป็นธุรกิจขายของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการ หรือขายไอเท็มที่ส่งเสริมทักษะของลูกน้อย

5. ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

น้องหมาน้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงประเภทต่าง ๆ คือสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ น่ารักที่มอบความสุขให้กับใครหลายคน และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด เลยทำให้หลายบ้านหันมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหล่านี้กันมากขึ้น ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าแทบจะไม่มีบ้านไหนเลยที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง และแน่นอนว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ต่างก็มองหาอาหารสัตว์ที่ดีที่สุดและผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของพวกเขา ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงจึงเป็นธุรกิจที่ไม่เคยตกยุคและน่าลงทุนในปี 2020 ที่จะถึงนี้

6. ธุรกิจเกี่ยวกับที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์

ในยุคที่ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง (Digital Marketing) มาแรง และการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ได้รับความนิยมมาขึ้นเรื่อย ๆ คนที่จับทางเทรนด์และปรับตัวตามกระแสเท่านั้นจึงจะอยู่รอดและมีโอกาสเติบโต ซึ่งหากคุณมีความรู้ความสามารถด้านนี้อยู่แล้ว ทำไมไม่ลองพิจารณาดูล่ะ ? ลองหาเงินทุนมาเริ่มต้นดู ยังไงก็มีโอกาสทำเงินแน่นอน !

7. ธุรกิจคอร์สเรียนออนไลน์

หากจะถามถึงธุรกิจน่าลงทุนปี 2020 ธุรกิจคอร์สเรียนออนไลน์ก็ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะสมัยนี้ใคร ๆ ก็รักความสะดวกสบายและไม่ชอบจ่ายเงินให้กับความยุ่งยาก แม้จะเป็นการหาความรู้ก็ต้องเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลาและไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทาง ลองหาแนวทางที่ถนัดและทำเป็นคอร์สออนไลน์ รับรองว่าไปได้สวยแน่นอน

สรุป
ธุรกิจน่าลงทุนปี 2020 ที่เราได้แนะนำไปนั้น เป็นธุรกิจมาแรงและจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุดในปีหน้า แถมยังจะคงได้รับความนิยมต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ เพราะเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตโดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าเงินลงทุนหรือรูปแบบการจัดการของแต่ละธุรกิจนั้นย่อมแตกต่างกันไป บางธุรกิจอาจจะใช้เงินทุนน้อยกว่า หรือบางธุรกิจอาจจะใช้เงินสูงขึ้นมานิดหน่อย แต่รับรองว่าน่าสนใจและมีแนวโน้มทำกำไรให้กับคุณแน่นอน!

ดังนั้นเลือกให้ดีว่าคุณชอบหรือมองเห็นโอกาสในธุรกิจไหน จากนั้นก็ลงมือทำแผนธุรกิจให้ครอบคลุมที่สุด เริ่มตั้งแต่เป้าหมาย เงินลงทุน แผนการตลาด แผนการขาย ฯลฯ แค่นี้ก็จะทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นแล้ว

ที่มา : thairath.co.th

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


 

ส่องเทรนด์ สกินแคร์ 2020

เชื่อว่าสาวๆ คงจะเห็นผลิตภัณฑ์ออกใหม่มากมายที่จะช่วยดูแลผิวพรรณให้สวยเต่งตึงสู้กับกาลเวลาที่ผ่านไป เรียกได้ว่า ตามซื้อตามใช้กันแทบจะไม่ทันเลยทีเดียว และปี 2020 ก็คงเป็นอีกปีหนึ่งที่บรรดาแบรนด์ต่างๆ จะปล่อย สกินแคร์ ใหม่ๆ มาให้เลือกกันอย่างจุใจ วันนี้ SI จะขอตามเทรนด์ ลองมาดูกันดีกว่าว่า “เทรนด์ของสกินแคร์” ในปีนี้ จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

1. สวยแบบ “Zero-Waste”
สวยแบบรักโลก กระแสที่ยังคงได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่อง นอกจากสกินแคร์สาวๆ ต้องการนั้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อผิวแล้ว ยังจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นจากกระบวนการผลิต ส่วนผสมต่างๆ และบรรจุภัณฑ์

2. ครีมกันแดดสูตร “Mineral”
ปัญหาหลักของครีมกันแดดที่สาวๆ ร้องยี้นั่นก็คือ ความเหนียวเหนอะหนะ รวมไปถึงเนื้อครีมที่ขาววอก ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้หน้าลอยแล้ว ยังเป็นคราบขาวอีกด้วย ปัจจุบันมีครีมกันแดดสูตร Mineral หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “Physical Sunscreens” เริ่มวางจำหน่ายอย่างแพร่หลาย ด้วยสูตรที่ให้สัมผัสเบาสบาย กลมกลืนกับสีผิวได้อย่างเรียบเนียน และไม่มี “สารเคมี” ที่เป็นอันตรายต่อผิวพรรณและสิ่งแวดล้อม

3. “เรียวปาก” นุ่มชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี
“ริมฝีปาก” เป็น “ผิวหนัง” ที่บางที่สุดบนใบหน้า ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญกับการดูแลและการบำรุงผิวของริมฝีปากเป็นพิเศษ นอกจากการทา “ลิปบาล์ม” อย่างสม่ำเสมอแล้ว ล่าสุดยังมี “เซรั่ม” และผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในการ “มาส์ก” รวมถึงการ “สครับ” ริมฝีปากให้คุณสาวๆ ได้ปรนนิบัติเรียวปากให้นุ่มสวยน่าสัมผัสอีกด้วย

4. สกินแคร์ต้าน “มลภาวะ”
ด้วยสภาพแวดล้อมทางอากาศที่มี “มลภาวะ” เป็นพิษมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ฝุ่น PM 2.5 ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพร่างกาย รวมถึงสุขภาพของผิวหน้าและผิวกาย ผลิตภัณฑ์ประทินผิวหลายๆ แบรนด์จึงเริ่มให้ความสำคัญกับส่วนผสมหลักอย่าง “Antioxidants” ที่มีส่วนช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพจากการทำลายของสภาวะแวดล้อม

5. “โทนเนอร์” ขั้นตอนที่ (เคย) ถูกมองข้าม
“โทนเนอร์” เริ่มกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังจากที่สาวๆ เคยมองข้ามขั้นตอนนี้ไปเวลาที่บำรุงผิวในแต่ละวัน เพราะคิดว่าไม่สำคัญ แต่จากการให้ข้อมูลความรู้ของสื่อและแบรนด์ต่างๆ ทำให้สาวๆ เข้าใจถึงหน้าที่ของโทนเนอร์ และหันกลับมาใช้โทนเนอร์กันเป็นประจำมากขึ้น โดยที่โทนเนอร์นั้นไม่เพียงช่วยในการปรับ “pH Balance” ให้กับผิว แต่ยังช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อีกด้วย

ที่มา : thairath.co.th

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


น้ำประปาเค็ม มีโซเดียมสูง ผู้ป่วยโรคไตควรเลี่ยง

กรมอนามัย แจงยังดื่มน้ำประปาได้ แม้มีรสกร่อย ไม่ก่อปัญหาโซเดียมเกิน ส่วนผู้ป่วยโรคไตไม่ควรรับโซเดียมเพิ่มเลย แนะอาจซื้อน้ำขวดดื่มแทนก่อน

น้ำเค็ม เพราะภัยแล้ง
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงกรณีภาวะแล้งน้ำทะเลหนุนสูง ทำให้เกิดปัญหาน้ำประปาเค็ม จนมีข้อแนะนำให้ดื่มน้ำขวดแทนไปก่อน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้เป็นโรคไต เพราะอาจรับโซเดียมมากเกินไป ว่า ผู้ที่บริโภคน้ำประปาเป็นประจำอาจจะรับรู้ถึงรสชาติที่เปลี่ยนไปจากปกติในบางครั้ง โดยความเค็มดังกล่าวมาจากเกลือโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือแกงที่ใช้ปรุงอาหาร ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดค่าแนะนำเพื่อความน่าดื่มและการยอมรับของผู้บริโภคไว้

โซเดียมสูง ทำให้น้ำประปากร่อย
ในน้ำประปา ควรมีโซเดียมไม่เกิน 200 มิลลิกรัมต่อลิตร และคลอไรด์ไม่เกิน 250 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่ถ้าเจือปนในน้ำมากเกินไปจะทำให้น้ำมีรสกร่อยถึงเค็มได้ ซึ่งทางโภชนาการและการแพทย์แนะนำว่า มนุษย์ควรรับโซเดียมเข้าสู่ร่างกายไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน โดยปัจจุบันน้ำประปามีโซเดียมประมาณ 100-150 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนปกติจะดื่มน้ำประปาจนได้รับโซเดียมเกินกว่าที่กำหนด

น้ำประปาโซเดียมสูง อันตรายต่อสุขภาพผู้ป่วยโรคไต
ความเค็มจากน้ำประปาอาจเพิ่มโซเดียมเข้าสู่ร่างกายต่อวันในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ แต่อาจจะส่งผลต่อกลุ่มเสี่ยงที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษคือกลุ่มผู้ป่วยโรคไต เพราะหากดื่มน้ำประปาที่มีความเค็มจะทำให้ได้รับโซเดียมเพิ่มขึ้นจากปกติได้ ดังนั้น ในช่วงน้ำประปาเค็ม กลุ่มผู้ป่วยโรคไตที่รับบริการฟอกไตที่โรงพยาบาลไม่ต้องกังวล เนื่องจากโรงพยาบาลทุกแห่งมีระบบการกรองแบบ Reverse Osmosis (RO) ที่ได้มาตรฐานและมีประสิทธิภาพ มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

สำหรับคนปกติทั่วไป การดื่มน้ำกร่อยอาจได้รับโซเดียมเพิ่มเติมจากปกติ จึงควรลดปริมาณสารปรุงแต่งอาหารที่มีความเค็มลง เช่น เกลือ น้ำปลา ซีอิ้ว ซอสปรุงรส ผงปรุงรส งดการบริโภคอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น ขนมกรุบกรอบ มันฝรั่งทอด หรือเปลี่ยนเป็นใช้น้ำดื่มบรรจุขวด ปิดสนิทแทนจะดีกว่า และยังส่งผลดีต่อสุขภาพด้วย

“คนปกติทั่วไปไม่มีอะไรน่ากังวล เพราะไตทำงานปกติ สามารถขับของเสียออกมาได้ แต่ที่ต้องกังวลคือ ผู้ป่วยโรคไต เนื่องจากไตทำงานได้น้อยลง การกำจัดเกลือก็จะน้อยตามไปด้วย และมีความเสี่ยงภาวะไตวายได้ ดังนั้น ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรรับเกลือเข้าสู่ร่างกายอยู่แล้ว อย่างคนทั่วไปรับได้วันละไม่เกิน 1 ช้อนชา ผู้ป่วยไตต้องน้อยกว่านั้นมาก ๆ อย่างแพทย์จะแนะนำเลยว่า ไม่ควรกินของเค็ม แต่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพไตของแต่ละบุคคล” พญ.พรรณพิมล กล่าว

ผู้ป่วยโรคไตควรต้องเลี่ยงดื่มน้ำประปา หรืออาจใช้เครื่องกรอง แต่ก็จะมีราคาแพง เพราะเครื่องกรองน้ำปกติส่วนใหญ่กรองตะกอน สิ่งปนเปื้อนอื่นๆ ไม่สามารถกรองความเค็มได้ เพราะละลายในน้ำเหมือนเกลือแกง ต้องใช้เครื่องกรองน้ำ Reverse Osmosis (RO) แต่มีราคาแพง ทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคไต ควรซื้อน้ำขวดดื่มก่อน

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


เจาะ 5 เทรนด์ตลาด ดักโอกาสปี 2020

ในการทำตลาด “เทรนด์” เป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องจับยามสามตา เหลียวหลังแลหน้าแล้ววิเคราะห์สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตเพื่อประเมินสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากรู้เห็นภาพรางๆก่อน ย่อมทำให้นักธุรกิจ กูรูการตลาด สามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับเทรนด์ได้ ขณะที่การพลาดเทรนด์ สะท้อนถึงการปรับตัวขององค์กรที่อยู่ในอัตราที่ “เชื่องช้า”กว่าการเปลี่ยนแปลงของโลก ผู้บริโภค ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรม ความต้องการไม่เหมือนเดิม สุดท้ายการปรับตัวไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ จะนำพาธุรกิจไปสู่ความล้มเหลวได้ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง

1. Segmentation by Digital Insight หรือการแบ่งส่วนตลาดตามความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งจะไม่ใช่เป็นการแบ่งตามลักษณะประชากรศาสตร์ เพศ อายุ อาชีพ รายได้ ฯ อีกต่อไป แต่ “ความสนใจ” ของผู้บริโภค จะเป็นตัวกำหนดว่าแบรนด์จะทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซ็กเมนต์อย่างไร เพื่อตอบสนองความต้องการเชิงลึก(Insight) ได้แม่นยำยิ่งขึ้น เช่น ผู้หญิง ผู้ชาย วัยรุ่น ผู้สูงอายุ มีความสนใจพิเศษอยู่ภายในใจในเรื่องเดียวกัน ซึ่งเหล่านี้แบรนด์สามารถ “จับ” อินไซต์ได้ผ่านการแสดงออกบนสื่อออนไลน์ต่างๆ

2. Good Data / Smart Data ข้อมูลที่ดีที่ถูกต้องมีความสำคัญอย่างมากในการทำตลาด และการเก็บข้อมูลลูกค้าปริมาณมหาศาล(Big Data) Data mining การใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI)ต่างๆอย่างเดียวไม่ได้ เพราะข้อมูลที่มีมากมาย ควรจะต้องนำไปใช้งาน ต่อยอดให้เกิดประโยชน์ได้ ย่อมดีมากกว่ามีข้อมูลเต็มไปหมด แต่ใช้งานไม่ได้

ข้อมูลเยอะ ไม่สำคัญเท่าข้อมูลที่ดี ข้อมูลที่ถูกต้อง” ทั้งนี้ ข้อมูลที่ดีและถูกต้อง ควรมีลักษณะสอดคล้อง(Relevant)ใช้กับธุรกิจและแบรนด์นั้นๆได้ และเป็นข้อมูลที่ Insightful

กรณีศึกษา เน็ตฟลิกซ์” ทำตลาดและโฆษณาช่วงวันหยุดปีใหม่ ซึ่งจราจรติดขัด การไปเที่ยวสถานที่ต่างๆผู้คนหนาแน่น จึงชวนให้ดูซีรี่ส์ผ่านเน็ตฟลิกซ์ดีกว่า แต่หากมองความต้องการผู้บริโภคให้ลึกจะพบว่าการที่ยอมฝ่าจราจรติดขัด เบียดเสียด แย่งกันเที่ยว เพราะทุกคนไม่ต้องการเป็นมนุษย์ ตกขบวน หรือ Fear Of Missing Out : FOMO ไปเพราะต้องการแสดงออกว่าได้เป็นหนึ่งในคนที่ไปเที่ยวปีใหม่ ได้เคาท์ดาวน์ และอาจมองกลับกันว่าคนที่อยู่บ้าน อาจไม่มีที่ไป เป็น Loser สิ่งเหล่านี้ต้องวิเคราะห์เจาะลึกถึง Pain point ผู้บริโภคให้ถ่องแท้

และดาต้าท่ี่ดีต้องสร้างความ ได้เปรียบ” ในเชิงการแข่งขัน ดาต้าที่ได้มาคู่แข่งไม่มี หรือคู่แข่งมี แต่จับประเด็นนำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้

3. Digital Social Responsibility : DSR เมื่อการใช้ดิจิทัลถึงจุดหนึ่ง การแสดงความรับผิดชอบบนโลกดิจิทัลต้องตามมาอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ หากเปรียบโลกออฟไลน์ มีการทำตลาดที่อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จนเกิดกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR) มีการตลาดสีเขียว(Green Marketing)มาตอบแทนสังคม บนโลกออนไลน์มีข่าวปลอม หลอกลวง(Fake News) การรังแกผู้อื่น(Bully) ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมตระหนักมากขึ้นเรื่อยๆ การแต่งตัวโป๊เปลือยเพื่อ Live ผ่านโชเชียลมีเดีย หรือแม้จะเชิญใครมาสัมภาษณ์ออกสื่อฯ ทั้งหมดต้องทำอย่างระมัดระวัง และรับผิดชอบบนโลกออนไลน์มากขึ้น

4. Customer insight Button วิเคราะห์หาความต้องการเชิงลึกที่เป็น “จุดเปลี่ยน” ของผู้บริโภคให้เจอ ไม่ว่าจะเป็นความอยากรู้อยากเห็น(Curiosity) เพื่อหากลยุทธ์การตลาดเพื่อ “เปลี่ยน” พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายให้ได้ เช่น การชกมวยทั่วไปผู้บริโภคไม่อยากชมแล้ว หากเป็น “ดารานักแสดง” มาชกมวย กลุ่มเป้าหมายสนใจมาก เป็นต้น

5. Life Line Economy ปฏิเสธไม่ได้ว่าเศรษฐกิจ ธุรกิจ ไม่สามารถอยู่บนแพลตฟอร์ม “ออหไลน์” หรือ “ออนไลน์” อย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกัน เพื่อนำไปสู่การแบ่งปัน ไม่ว่าจะเป็น Sharing Economy หรือ Circular Economy

“ถ้าเข้าใจ life line ของผู้คนมากขึ้น ก็จะทำใหเ้เกิดการแบ่งปันกัน”

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นักการตลาด แบรนด์ต้องลุกขึ้นมาทำ คือเป็นผู้กำหนดเทรนด์ด้วยตนเอง ปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะนับวันความท้าทายมีมากขึ้นเรื่อยๆ

ปีนี้นักการตลาดต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงตลาด ผู้บริโภค ต้องเป็นนักการตลาดที่ Agile เคลื่อนตัวเร็ว เคลื่อนไหวตลอดเวลา ต้องยืดหยุ่น(Resilence)ตามเหตุการณ์ ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เฉพาะตัวหรือ Personalize มากขึ้น และรู้รอบด้าน ไม่ใช้รู้แค่ธุรกิจตัวเอง รวมถึงรู้ทั้งโลกออฟไลน์และออนไลน์ด้วย

ที่มา : bangkokbiznews.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


กินกล้วยมื้อเย็น ลดน้ำหนักได้จริงหรือ?

ประโยชน์ของกล้วยในส่วนของการลดน้ำหนักนั้น ขอบอกเลยว่ากล้วยก็ไม่ได้กล้วยอย่างที่คิด แต่เป็นผลไม้ลดน้ำหนักสรรพคุณเด็ดมาก มีดีทั้งช่วยให้ผอมได้ แถมด้วยประโยชน์ด้านอื่น ๆ อีกไม่น้อย และหากใครกำลังสงสัยว่ากินกล้วยมื้อเย็นจะอ้วนไหม หรือกินกล้วยแทนมื้อเย็นไปเลยจะช่วยลดน้ำหนักได้หรือเปล่า วันนี้ SI พาทุกคนมาหาคำตอบกันค่ะ

กินกล้วยมื้อเย็น

กล้วยมีวิตามินบี 1 และบี 2 ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน อีกทั้งยังมีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ ดังนั้นเมื่อกล้วยตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัว และช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

แถมหากกินกล้วยมื้อเย็นสักลูก ความหวานในตัวกล้วยยังจะช่วยลดความอยากของหวาน ๆ หรืออาหารประเภทจังก์ฟู้ดได้อีกต่างหาก และที่สำคัญความหวานในส่วนนี้ยังปราศจากแคลอรีด้วยล่ะ

นอกจากนี้การกินกล้วยในช่วงมื้อเย็นยังมีประโยชน์พอ ๆ กับการกินกล้วยมื้อเช้าเลยนะคะ เพราะไม่ว่าจะกินกล้วยตอนไหน กล้วยยังไงก็เป็นกล้วยที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 ซึ่งถือเป็นโคเอนไซม์สำคัญของกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย นั่นก็เท่ากับว่า เมื่อกินกล้วยมื้อเย็นเข้าไป ระบบการเผาผลาญในร่างกายก็จะทำงานอย่างกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น เบิร์นเหล่าอาหารที่เรากินมาทั้งวันได้ดีขึ้นนั่นเอง

กินกล้วยมื้อเย็น

และหากเป็นคนที่มักจะนอนหลับยากหรือนอนหลับด้วยความกระสับกระส่ายมาตลอด อยากท้าให้ลองกินกล้วยมื้อเย็นดูสักตั้ง เพราะกล้วยอุดมไปด้วยกรดอะมิโนและทริปโตเฟน สารประกอบสำคัญของการสร้างเซโรโทนินในสมอง ซึ่งเปรียบเสมือนยาระงับประสาทแบบธรรมชาติ ช่วยให้นอนหลับง่ายกว่าที่เคยอีกด้วยนะ

ที่มา : www.kapook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


เครียดลงกระเพาะ โรคฮิตของคนทำงาน

รู้หรือไม่ว่า เวลาเราเครียด ฮอร์โมนในร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไป หัวใจจะเต้นแรง เร็ว แต่ไม่เป็นจังหวะ เส้นเลือดบีบตัว ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ส่วนกระเพาะอาหารของเราก็จะหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าที่ควรจะเป็น ลำไส้บีบตัวอย่างรุนแรง ฯลฯ วันนี้ SI มีบทความดีๆ ของโรคเครียดลงกระเพาะมาฝากกันค่ะ

อาการของโรคเครียดลงกระเพาะ
ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไปดังนี้

– ปวดท้อง หรือมวนท้อง ซึ่งอาการดังกล่าวจะบรรเทา หรือหายไปเมื่อถ่ายอุจจาระ
– ถ่ายอุจจาระมากกว่าวันละ 3 ครั้ง หรือถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้ง ต่อสัปดาห์
– ต้องเบ่งถ่าย หรือกลั้นไม่อยู่ หรือรู้สึกว่าถ่ายไม่สุด
– ปวดบริเวณลิ้นปี่
– มีอาการท้องอืด หรือรู้สึกว่ามีลมในกระเพาะมาก
– คลื่นไส้อาเจียนหลังอาหาร

ถึงแม้ว่าอาการดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลให้เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่อาการเครียดลงกระเพาะก็ส่งผลให้ ประสิทธิภาพในการทำงานของเราลดลงเป็นอย่างมาก

วิธีการรักษาโรคเครียดลงกระเพาะ วิธีการรักษาโรคนี้จะต้องแก้กันที่ต้นเหตุ ด้วยการคลายความเครียดด้วยวิธีการ ดังนี้

1. เรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน ถ้าความเครียดของเราเกิดจากเกิดจากการหมกมุ่นอยู่กับเหตุการณ์ในอดีต หรือมัวแต่คิดถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่ยังมาไม่ถึงแล้วล่ะก็ การหมั่นดึงจิตใจให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ยอมรับความจริง และคิดหาทางแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ และมีสติ จะช่วยลดความเครียดได้เป็นอย่างดี

2. หัดระบายความรู้สึกออกมาบ้าง การได้เล่าความเครียดให้คนอื่นฟัง หรือ จดลงในบันทึกส่วนตัวเป็นอีกวิธีง่ายๆที่จะเอาความเครียดออกไปจากตัวของเรา

3. ออกกำลังกาย เพราะทุกครั้งที่ออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอนโดฟิน ออกมาทำให้เรารู้สึก สบายใจ ลดความวิตกกังวลลง

4. ลองตื่นแต่เช้า แล้วลงไปเดินเล่นสวนสาธารณะ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เป็นการเพิ่มพลังให้กับตัวเอง จะทำให้เราพร้อมที่จะแก้ทุกปัญหาที่จะเข้ามา โดยที่ไม่มีความเครียดมารบกวนได้

5. หัดปล่อยวางซะบ้าง ถ้าเจอปัญหาที่มันหาทางออกไม่ได้จริงๆ วิธีที่ดีที่สุดคือ วางมันลงไว้ก่อน แล้วถอยหลังออกมาตั้งหลัก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ผ่อนคลาย เมื่อเราพร้อมค่อยกลับมาดูมันอีครั้ง บางทีในครั้งหลังเราอาจจะพบทางออกก็ได้

สุดท้าย ขอให้คุณนึกไว้เสอมว่าไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่เคยเครียด อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับมันอย่างมีสติหรือไม่เท่านั้นเอง

ที่มา : todayhealth.org, คอลัมภ์ Healthy Body in Healthy Mind นิตยสาร Secret

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


ว่านชักมดลูก ไอเท็มเด็ดตัวช่วยเรื่องสุขภาพ

ว่านชักมดลูก สมุนไพรไทยตัวช่วยเรื่องสุขภาพของผู้หญิง ผู้หญิงวัยทองจะมีภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ก่อให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ แสบร้อนผิวหนัง หงุดหงิด เสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูง ผนังหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และอาจเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ดังนั้นไฟโตเอสโตรเจนในว่านชักมดลูกตัวเมียจึงช่วยเสริมเอสโตรเจนให้สตรีวัยทองได้ และยังพบว่าว่านชักมดลูกตัวเมียมีสารกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นเทียบเท่าวิตามินซี มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ดีต่อระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยรักษาและซ่อมแซมระบบหลอดเลือดและหัวใจด้วย วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จักสรรพคุณของว่านชักมดลูกที่ไม่ได้มีดีแค่ลดอาการปวดประจำเดือนมาฝากกันค่ะ

รักษาประจำเดือนมาไม่ปกติ
ในตำรับยาไทยจะใช้เหง้าว่านชักมดลูกตัวเมียแก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ บรรเทาอาการปวดท้องระหว่างมีประจำเดือน รวมไปถึงรักษาอาการตกขาว เนื่องจากงานวิจัยในไทยสันนิษฐานว่า ว่านชักมดลูกน่าจะมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) โดยทางการแพทย์จะเรียกสารนี้ว่า ไฟโตเอสโตรเจน ซึ่งแปลได้ว่า สารที่ได้จากพืชในธรรมชาติ ที่ออกฤทธิ์คล้ายเอสโตรเจนในร่างกายมนุษย์ ดังนั้นจึงช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงให้กับคุณสาว ๆ ทำให้บรรเทาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ รวมไปถึงปัญหาสุขภาพผู้หญิงอื่น ๆ ได้

ช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นหลังจากการคลอดบุตร
ในตำรับยาแผนไทยก็ยังใช้ว่านชักมดลูกตัวเมียในการทำให้มดลูกเข้าอู่เร็วขึ้นด้วย โดยจากการทดลองในหนูเม้าส์พบว่า สารสกัดจากว่านชักมดลูกช่วยเพิ่มน้ำหนักและปริมาณไกลโคเจนสะสมของมดลูก กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์เยื่อบุมดลูกชั้นต่าง ๆ ทำให้เกิดการแบ่งตัว และทำให้เยื่อบุมดลูกมีความหนามากยิ่งขึ้น ช่วยให้มดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้น ซ้ำยังมีผลกระตุ้นการเจริญเติบโตของเยื่อบุช่องคลอดด้วย

บรรเทาอาการวัยทอง
ผู้หญิงวัยทองจะมีภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ก่อให้เกิดอาการร้อนวูบวาบ แสบร้อนผิวหนัง หงุดหงิด เสี่ยงภาวะไขมันในเลือดสูง ผนังหลอดเลือดขาดความยืดหยุ่น และอาจเสี่ยงโรคกระดูกพรุน ดังนั้นไฟโตเอสโตรเจนในว่านชักมดลูกตัวเมียจึงช่วยเสริมเอสโตรเจนให้สตรีวัยทองได้

อีกทั้งยังพบว่า ว่านชักมดลูกตัวเมียมีสารกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นเทียบเท่าวิตามินซี มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ดีต่อระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยรักษาและซ่อมแซมระบบหลอดเลือดและหัวใจด้วย

ลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี
จากการทดลองพบว่า สารโฟราซิโตฟีโนนในว่านชักมดลูกมีฤทธิ์กระตุ้นการหลั่งน้ำดี และเสริมให้มีการหลั่งกรดน้ำดีมากขึ้น ด้วยสรรพคุณว่านชักมดลูกในข้อนี้จึงช่วยลดการเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้

ลดไขมันในเลือด
การวิจัยพบว่า สารสกัดว่านชักมดลูกด้วยเอทิลอะซิเตทช่วยลดไขมันในเลือดได้ โดยมีส่วนช่วยลำเลียงไขมันออกจากเนื้อเยื่อต่าง ๆ เข้าไปในตับและเสริมให้เกิดการขับคอเลสเตอรอลและกรดน้ำดีสู่ทางเดินอาหาร จากนั้นร่างกายจะขับออกมาพร้อมอุจจาระ

ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงขึ้น
ฤทธิ์ต้านออกซิเดชั่นในว่านชักมดลูกมีส่วนช่วยให้ผนังหลอดเลือดในหนูทดลองที่ถูกทำให้มีอาการวัยทองแข็งแรงขึ้น โดยพบว่า ว่านชักมดลูกสามารถป้องกันอาการเยื่อบุผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจขาดความยืดหยุ่น และยังช่วยต้านการอักเสบได้อีกด้วย

ป้องกันโรคกระดูกพรุน
เมื่อทำการทดลองใช้ว่านชักมดลูกในหนูที่ถูกตัดรังไข่ พบว่า หนูที่กินสารสกัดจากว่านชักมดลูกตัวเมียติดต่อกัน 5 สัปดาห์ สามารถป้องกันการสูญเสียแคลเซียม และรักษาระดับความหนาแน่นของมวลกระดูกได้ดีเท่ากับหนูที่กินเอสโตรเจน นอกจากนี้ยังทำให้ขนาดมดลูกของหนูทดลองโตขึ้นน้อยกว่ากลุ่มที่กินเอสโตรเจนด้วย

ป้องกันจอประสาทตาเสื่อม
จากการนำเอาสารกลุ่มไดแอริลเฮปตานอยด์ที่แยกได้จากว่านชักมดลูกตัวเมียมาทดลองในหลอดทดลอง พบว่า สารดังกล่าวมีกระบวนการต้านออกซิเดชั่น ที่สามารถป้องกันเซลล์เรตินาของตาถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดความสี่ยงโรคจอประสาทตาเสื่อมได้

อย่างไรก็ตาม การวิจัยยังเป็นการทดลองในสัตว์เท่านั้น ยังไม่มีรายงานการทดลองในมนุษย์ จึงยังไม่ทราบถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมไปถึงขนาดและวิธีใช้ที่เหมาะสมกับการรักษา

ที่มา : kapook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


การบูรกับโปรโยชน์ด้านบำรุงสุขภาพ

เชื่อว่าหลายคนติดใจกลิ่นของการบูรเข้าอย่างจัง และมักจะสูดดมการบูรบ่อย ๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น แต่รู้ไหมคะว่าการบูรมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากกว่านั้น และยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ วันนี้ SI พาทุกคนไปทำความรู้จักคุณประโยชน์ของการบูรให้มากขึ้นกันค่ะ

1. แก้เคล็ดขัดยอก
การบูรมีรสร้อนปร่าเมา ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เคล็ดขัดยอก แก้เท้าแพลง แก้ปวดข้อ โดยใช้ขัดถูตามตัว ทว่าส่วนใหญ่จะนำการบูรไปผสมเป็นตำรับยาทาแก้เคล็ดขัดยอกแถมด้วยสรรพคุณต่าง ๆ เช่น ตำรับ “ยาแก้ลมอัมพฤกษ์” ที่มีการบูรผสมสมุนไพรอื่น ๆ ช่วยบรรเทาอาการปวดตามเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ มือ เท้า ตึงหรือชา

2. แก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
ในยาหม่องหรือน้ำมันแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อยส่วนใหญ่จะมีการบูรเป็นส่วนผสมอยู่ด้วย เนื่องจากการบูรมีฤทธิ์ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย

3. ขับลม ขับเสมหะ
ตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ระบุว่า หากเป็นส่วนประกอบของยาใช้ภายใน การบูรมีสรรพคุณบำรุงธาตุ ขับลม ขับเสมหะ แก้ธาตุพิการ บรรเทาอาการจุกเสียด ปวดท้อง และช่วยกระจายลม

4. แก้อาการหน้ามืด วิงเวียน
ตำรับยาแผนไทยแห่งชาติ พ.ศ. 2558 (ฉบับที่ 1) ระบุด้วยว่า การบูรมีสรรพคุณแก้อาการหน้ามืด ปวดศีรษะ แก้วิงเวียน ช่วยกระตุ้นหัวใจ และแก้คันได้ โดยใช้การบูรเป็นส่วนประกอบในยาใช้ภายนอก

5. บำรุงหัวใจ
การบูรมักจะถูกนำไปปรุงเป็นยาหอมต่าง ๆ เช่น ยาหอมเทพจิตร มีสรรพคุณบำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ ขับลม ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ และแก้ไข้หวัดคัดจมูก

6. แก้ปวดท้อง
ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พบว่ามีการใช้การบูรร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ โดยปรุงเป็นยาธาตุบรรจบ มีสรรพคุณแก้ปวดท้อง แก้ท้องเสียชนิดไม่ติดเชื้อ บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นต้น

7. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน
ตำรับยาเลือดงาม และยาประสะไพล ซึ่งมีส่วนประกอบของการบูรร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ มีสรรพคุณบรรเทาอาการปวดประจำเดือน ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ขับน้ำคาวปลาในหญิงหลังคลอดบุตร และรักษาอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือประจำเดือนมาน้อย

8. แก้ปวดฟัน
คนในสมัยก่อนนำการบูรมาใช้อุดฟันที่ปวด เพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน และปัจจุบันยังนำการบูรมาใช้เป็นส่วนผสมของยาสีฟันสมุนไพรและน้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยให้ปากหอมสดชื่น

9. ต้านเชื้อแบคทีเรีย
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ได้เผยผลการทดลองฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียของการบูรโดยพบว่า สาร pinoresinol ในการบูรออกฤทธิ์ยับยั้งและฆ่าเชื้อ B. subtilis ได้ดีที่สุด รองลงมาคือเชื้อ P. aeruginosa ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้อาหารบูดเสีย โดยเฉพาะเนื้อสัตว์ ซึ่งสาร pinoresinol ในการบูรมีศักยภาพในการนำไปพัฒนาเป็นสารกันเสียที่ได้จากธรรมชาติต่อไป

10. ต้านการอักเสบ
มีงานวิจัยสรรพคุณของการบูรในด้านต้านอาการอักเสบ ซึ่งผลวิจัยพบว่า การบูรมีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งเซลล์ที่เหนี่ยวนำให้เกิดการอักเสบ ยับยั้งไม่ให้เกิดการรวมกลุ่มของโมเลกุล และเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันที่จะมารวมตัวกันในบริเวณที่เกิดการอักเสบ แต่ทั้งนี้การทดลองดังกล่าวเป็นการศึกษาในสัตว์ทดลอง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องศึกษาฤทธิ์ต้านการอักเสบของการบูรในคนต่อไป

ที่มา : kapook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


9 สารสกัดตัวเทพลดปัญหาผมร่วง

ปัญหาผมร่วง เป็นปัญหาที่พบได้บ่อย ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยปกติคนเราจะผมร่วงเฉลี่ยวันละ 100 เส้น แต่ถ้าสระผม ปริมาณผมที่ร่วงจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หากมีผมร่วงมากกว่าปกติจะส่งผลให้เกิดผมบางและศีรษะล้านตามมาได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากเส้นผมเปราะบางแล้วหักหรือขาดกลางเส้น หรือเกิดจากผมไม่งอกใหม่แล้ว วันนี้ SI มี 9 สารสกัดตัวเทพ ที่จะช่วยแก้ปัญหาผมร่วงอย่างได้ผล จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

1. ใบชะคราม มีสรรพคุณช่วยรักษารากผมทำให้รากผมแข็งแรง บรรเทาอาการคันหนังศีรษะ ช่วยล้างสารพิษจากมลภาวะสิ่งแวดล้อมและสารเคมี ลดอาการผมร่วง ช่วยเร่งให้เส้นผมยาวเร็วขึ้น

2. ใบหมี่ ช่วยบำรุงหนังศีรษะและเส้นผม ลดการหลุดร่วงของเส้นผม ใช้กำจัดเหา ป้องกันการเกิดรังแคและการเกิดเชื้อรา หรือรักษากลากเกลื้นบนหนังศีรษะ ช่วยปกป้องผมจากสารเคมีและมลภาวะ โดยมีสารเมือกจากใบเป็นสารเคลือบ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผม ช่วยให้ผมนุ่มลื่น

3. อัญชัน ช่วยให้ผมดกดำ เงางาม ดูมีน้ำหนัก นิยมใช้สารสกัดเป็นส่วนประกอบในยาปลูกผมยาย้อมผม

4. ว่านหางจระเข้ ช่วยบำรุงหนังศีรษะ เพิ่มความชุ่มชื้นให้เส้นผม ไม่ทำให้เส้นผมแห้งและกรอบง่ายจากการใช้สารเคมีหรือความร้อน ช่วยกระตุ้นรากผมที่เกิดใหม่หี้ความแข็งแรง ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

5. มะกรูด ช่วยลดรังแค ลดผมขาดหลุดร่วง บรรเทาอาการคันหนังศีรษะ  ทำให้ผมนุ่มลื่นเป็นมันเงางาม

6. มะคำดีควาย รักษาอาการชันนะตุ ลดอาการคันหนังศีรษะ รักษาโรคหนังศีรษะที่เกิดจากเชื้อรา

7. บอระเพ็ด ช่วยให้เส้นผมดำเงางามเป็นธรรมชาติ ลดอาการผมหงอกก่อนวัย เส้นผมไม่หลุดร่วงง่าย ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง

8. ใบบัวบก บำรุงรากผม ช่วยชะลอการเกิดผมงอกก่อนวัย ต้านการเกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียที่เกิดบนหนังศีรษะ

9. ขิง ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผม ป้องกันการเกิดรังแค ช่วยให้ผมมีน้ำหนัก เงางามอย่างเป็นธรรมชาติ

ปัจจุบันมีการแปรรูปสมุนไพรต่างๆ ให้อยุ่ในรูปแบบยาสระผมที่มีส่วนผสมของสมุนไพร ทำให้นำมาใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรอ่านฉลากก่อนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพรทุกครั้ง เนื่องจากอาจมีส่วนประกอบที่เป็นสารเคมี น้ำหอม สารกันเสีย หรือสารที่ช่วยทำให้เกิดฟอง อาจทำให้เกิดอาการแพ้หรือทำให้ผมร่วงมากขึ้นได้ และหากผมร่วงอย่างผิดปกติ หรือทดลองรักษาด้วยสมุนไพรแล้วไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป

ที่มา : honestdocs.co

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


ปลุกพลังเตรียมใจกลับมาทำงานหลังวันหยุดยาว

วิธีเตรียมตัวเตรียมใจกลับมาทำงานหลังจากหยุดพักผ่อนยาว ๆ ไป ปลุกตัวเองให้คึกคักพร้อมลุยงานอย่างเต็มที่อีกครั้งแบบสุดชิล เพิ่งกลับมาจากเที่ยวกันมายาว ๆ หลายคนก็รู้สึกเหมือนยังเพลียไม่หาย พูดให้ตรงก็ต้องบอกว่าไม่พร้อมจะทำงานอย่างจริงจังเลยล่ะ แต่ในเมื่องานไม่เดินเงินก็ไม่เข้ากระเป๋า จะทำยังไงดี วันนี้ SI ขอเป็นกำลังใจให้พลังฮึดอยากทำงานกลับมากันนะคะ

นอนให้พอ

เชื่อเลยว่าตลอดวันหยุดที่ผ่านมาคุณเที่ยวแบบหามรุ่งหามค่ำ จัดหนักทั้งอาหารการกินและของมึนเมาไม่ยั้ง ดังนั้นไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะหากรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงในวันหย­­ุดสุดท้ายก่อนกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งวิธีแก้ไขในเบื้องต้นก็ไม่มีอะไรยากค่ะ เพียงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ หากเป็นไปได้เข้านอนก่อน 23.00 น. จะดีกับร่างกายมาก อย่างน้อยก็ลดอาการอ่อนเพลียจากที่ใช้ร่างกายสุดคุ้มมาหลายวัน

ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย

วิธีเติมพลังหลังวันหยุดยาว คึกคักรับงานเข้าชิล ๆ
การออกกำลังกายในช่วงรุ่งเช้าช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระ­­ปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลายเท่าเลยนะคะ ไม่เชื่อลองตื่นเช้ามาวิ่งจ๊อกกิ้งสักครึ่งชั่วโมงสิ แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของร่างกายที่รู้สึกสดชื่นขึ้­­น เหมือนพร้อมแล้วจะออกไปลุยงาน ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามภาระหน้าที่ ชีวิตดี๊ดีกว่าตอนที่ตื่นสายแล้วต้องรีบทำธุระส่วนตัวแข่งกับเว­­ลาเป็นไหน ๆ

จัดเต็มอาหารเช้า

วิธีเติมพลังหลังวันหยุดยาว คึกคักรับงานเข้าชิล ๆ
กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด ร่างกายเราก็ต้องการอาหารเช้าเพื่อไปเติมเต็มการทำงานของส่วนต่­­าง ๆ ในร่างกายด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนกลับไปสู่โลกแห่งการทำงานตามเดิม ควรต้องจัดเต็มมื้อเช้าไปให้พร้อม อิ่มท้องแล้วจะได้ลุยงานได้เต็มที่ยังไงล่ะ

เคลียร์โต๊ะทำงาน

วิธีเติมพลังหลังวันหยุดยาว คึกคักรับงานเข้าชิล ๆ

ก่อนเคลียร์งานกองโต แนะนำให้จัดการกับสถานที่ทำงานของคุณให้เรี­ยบร้อยก่อน ทั้งฝุ่นและกองขยะที่ทิ้งค้างไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนก็ทำความสะอ­­าดให้เรียบร้อย หรือหากมีเวลามากพอจะจัดโต๊ะทำงานใหม่ก็คงเติมความสดชื่นให้การ­­ทำงานได้ไม่น้อยเลย

ไล่เรียงตารางงาน

หยุดพักไปตั้งหลายวันอาจมีบ้างที่หลง ๆ ลืม ๆ ว่าเราค้างงานอะไรเอาไว้ ดังนั้นกลับมาทำงานวันแรกก็เริ่มเช็กทั้งอีเมล เช็กกับลูกค้า หัวหน้างาน และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน หน้าที่การงานจะได้ไม่ตกหล่นนะจ๊ะ

เลิกซะเถอะนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง

“เอาน่า พรุ่งนี้ก็ทัน” ใครติดนิสัยชอบพูดประโยคนี้บอกเลยว่าชีวิตคุณคงวุ่นวายไม่หาย โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องงานทุกอย่างก็คงไม่ราบรื่นพาให้ไม่อยากทำ­­งานไปซะเปล่า ๆ ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมหากคุณเลิกเลื่อนวันผัดเวลา แล้วลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างเต็มที่ที่สุด เชื่อไหมว่าแค่นี้อารมณ์ทำงานก็มาเต็มแล้ว

ถึงเวลาพักก็พักให้เต็มที่

เวลาทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ แต่ถึงเวลาพักเมื่อไรให้หยุดงานทุกอย่างลงทันที แล้วจับกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเม้าท์ถึงวันหยุดที่เพิ่งผ­่า­นไป เรียกคืนบรรยากาศคึกคักเบียดความตึงเครียดจากงานในออฟฟิศให้เกล­­ี้ยง ถือซะว่าเป็นช่วงเวลาได้ปลดปล่อยอีกหน่อยก่อนกลับไปทำงานต่อในช­­่วงบ่าย

ปล่อยให้ความสนุกสนานในช่วงวันหยุดผ่านพ้นไป แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกันต่อด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ด­­ูนะคะ แล้วชีวิตจะดีขึ้นจริงๆ ค่ะ

ที่มา : kapook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


icon-f gray-line_logo-1 icon-you

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า