อะเซล่าเชอร์รี่กับ 9 ประโยชน์จัดเต็ม

อะเซล่าเชอร์รี่ ประโยชน์ นอกจากความสวยงามแล้ว อะเซล่าเชอร์รี่ ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพเมื่อรับประทาน เช่นกิน อะเซล่าเชอร์รี่ เพื่อบำรุงสุขภาพร่างกาย ป้องกันหวัด และยังสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สำหรับอาหารเสริมวิตามินอย่างอะเซโรลาเชอร์รี่ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก

ในกลุ่มหนุ่มสาววัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา เพราะนอกจากจะดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพของอาหารเสริมอื่น ๆ โดยการช่วยดูดซึมให้เข้าสู่ร่างกายให้ดีมากยิ่งขึ้น จะมีอะไรบ้างนั้น ตาม SI ไปดูกันค่ะ

1. เสริมสร้างคอลลาเจน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอลลาเจน
เนื่องจากอะเซโรลาเชอร์รี่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง จึงช่วยเร่งการสร้างเสริมสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง จึงทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัยและทำให้ผิวยังคงกระชับและยืดหยุ่นอยู่เสมอ

2. สมานผิวพร้อมลดเลือนริ้วรอย
ประโยชน์อีกอย่างประการหนึ่งของอะเซโรลาเชอร์รี่ต่อผิวหนังคือเป็นตัวช่วยลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนผิวหนัง เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง และกระทั่งช่วยในเรื่องระบบทางเดินอาหารได้ นอกจากนั้น น้ำจากเชอร์รี่ดังกล่าวสามารถใช้เป็นยาน้ำป้วนปากที่ทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลชีพได้อีกด้วย

3. ปกป้องผิวจากมลภาวะ
การบริโภคอะเซโรลาเชอร์รี่เป็นประจำจะช่วยทำให้ผิวของคุณจะได้รับการปกป้องจากตัวทำให้เกิดความตึงเครียด จากสารเคมี (Chemical Stressor) อย่างควันบุหรี่ มลพิษ และสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

4. เร่งการฟื้นฟูสภาพผิว

อะเซโรลาเชอร์รี่สามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูซ่อมแซมบาดแผล แผลไฟไหม้ แผลเป็น และกระทั่งรอยแตกลาย และยังมีไบโอฟลาโวนอยด์เป็นส่วนสำคัญในการชะลอการเสื่อมสภาพของผิวออกไป ส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ยังช่วยต่อสู้กับรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า ริ้วรอยร่องตื่น รอยตีนกา รอยใต้โหนกแก้ม จุดด่างดำ รอยหมองค้ำ ฯลฯ

5. ต่อต้านอนุมูลอิสระ

วิตามินซีที่มีอยู่มากใน Acerola Cherry ยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวหนังของคุณจากการถูกทำลายได้ เนื่องจากอนุมูลอิสระเหล่านี้เป็นโมเลกุลที่ไม่เสถียรทำให้ผิวหนังอ่อนแอลงและถูกทำลายในที่สุด อีกทั้ง อนุมูลอิสระเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเจ็บป่วยและโรคเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ได้

6. ลดอาการภูมิแพ้
ช่วยลดอาการภูมิแพ้ รวมทั้งอาการแพ้ต่าง ๆ ให้ดีขึ้นได้ โดยสามารถช่วยยับยั้งสาร ฮีสตามิน ซึ่งร่างกายได้ผลิตขึ้นมา หากร่างกายมีมากเกินไปจะทำให้มีอาการของระบบหายใจระคายเคือง ทำให้จาม และมีอาการมีน้ำมูกไหล ทำให้อะเซล่าเชอร์รี่สามารถช่วยดูแลได้ด้วยคุณภาพโยชน์จากวิตามินต่าง ๆ

7. ปกป้องจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายต่อผิว
ประโยชน์ต่อผิวหนังอีกประการหนึ่งของอะเซโรลาเชอร์รี่ คือ สามารถปกป้องคุณจากรังสียูวีได้ โดยปริมาณวิตามินเอในอะเซโรลาเชอร์รี่จะช่วยปกป้องผิวหนังของคุณจากรังสีจากดวงอาทิตย์ที่เป็นอันตรายได้ เพราะหากคุณสัมผัสกับรังสียูวีมากจนเกินไปจะทำให้ผิวเสีย ซึ่งในกรณีเลวร้ายที่สุดนั้นจะนำไปสู่มะเร็งผิวหนังที่ไม่มีต้องการให้เกิดขึ้นได้

8. ทำให้ผิวชุ่มชื้น
สารอาหารต่างๆ มากมายในอะเซโรลาเชอร์รี่จะช่วยทำให้ผิวหนังของคุณอิ่มน้ำและคงความชุ่มชื้นไว้ได้ ไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นประเภทใดก็ตาม

9. จัดการกับสิวและปัญหาผิวหนังอื่นๆ
วิตามินซียังมีประสิทธิภาพในการกำจัดสิวและแผลเป็น เพราะมันช่วยเร่งกระบวนการสมานแผลและการลดรอยแดงของร่างกาย และวิตามินซีนี้ยังช่วยลด Cortisol ฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความเครียด ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวอีกด้วย

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


มะขามป้อมกับ 15 ประโยชน์จัดเต็ม!

มะขามป้อมที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเชื่อกันว่ามีฤทธิ์ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ ช่วยรักษาโรคหลากหลาย เช่น ลดคอเลสเตอรอลในเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง โรคเบาหวาน ตับอ่อนอักเสบ โรคมะเร็ง ท้องเสีย โรคทางสายตา ปวดข้อ ถ่ายเป็นเลือด โรคอ้วน โรคข้อเข่าเสื่อม หรือฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และคุณประโยชน์อีกมากมายจะมีอะไรบ้างนั้น ตาม SI ไปดูกันค่ะ

1. อุดมไปด้วยสารอาหารและเป็นแหล่งของวิตามินซี เชื่อว่าถ้าพูดถึงผลไม้วิตามินซีสูง หลาย ๆ คนคงจะนึกถึงส้ม แต่หารู้ไม่ว่าผลไม้อย่างมะขามป้อมนั้นมีวิตามินซีสูงกว่าส้มถึงเท่าตัว แถมในมะขามป้อมยังมีสารแทนนินและโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารป้องกันการสลายตัวของวิตามินซี ทำให้วิตามินซีคงตัวอยู่ได้นานอีกด้วย

2. แก้ไอ เจ็บคอ ลดเสมหะ แก้หวัด ถ้าพูดถึงประโยชน์ดี ๆ ของมะขามป้อม แทบทุกคนคงจะต้องบอกว่าช่วยแก้ไอ แก้หวัด ละลายเสมหะ รักษาอาการเจ็บคอแน่นอน เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารกลุ่มแทนนิน แถมรสเปรี้ยวของมะขามป้อมยังช่วยละลายเสมหะและบำรุงเสียงได้

3. เสริมสร้างภูมิต้านทาน สารแทนนินและวิตามินซีที่มีอยู่ในมะขามป้อม เป็นสารที่ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกาย

4. โรคข้อเข่าเสื่อม ตามแนวทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียได้ใช้สมุนไพรหลายชนิดในการรักษาโรค โดยมะขามป้อมเป็นสมุนไพรอีกชนิดที่เชื่อว่ามีฤทธิ์ต้านการอักเสบและเป็นส่วนผสมอยู่ในตำรับยาดังกล่าว จึงมักถูกนำมาใช้รักษาโรคข้อเข่าเสื่อม

5. รักษาลักปิดลักเปิด มีงานวิจัยพบว่า ร่างกายคนเราสามารถดูดซึมวิตามินซีจากมะขามป้อมได้ดีกว่าวิตามินซีเม็ดทั่วไป เนื่องจากในมะขามป้อมมีสารอื่น ๆ ที่ช่วยให้วิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ดังนั้นผู้ที่เป็นโรคลักปิดลักเปิดที่มีอาการเลือดออกตามไรฟัน ซึ่งเป็นโรคที่ร่างกายขาดวิตามินซีจึงควรทานมะขามป้อมที่มีวิตามินซีสูงเข้าไปมาก ๆ เพราะสามารถช่วยให้หายจากโรคนี้ได้

6. บรรเทาอาการคันจากเชื้อรา น้ำกัดเท้า เราสามารถนำรากของมะขามป้อมมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ และนำไปต้มประมาณ 15 นาที จากนั้นก็นำมาทาบริเวณที่เป็นเชื้อรา ก็จะช่วยบรรเทาอาการคันได้ ส่วนใครที่มีอาการคันจากน้ำกัดเท้า ให้นำเปลือกมะขามป้อมไปตำผสมกับน้ำเล็กน้อย แล้วนำมาทาบริเวณที่คันก็จะช่วยรักษาได้ หรือหากใครอยากจะฆ่าเชื้อโรคหรือป้องกันน้ำกัดเท้าไว้ก่อน จะนำเปลือกของต้นมะขามป้อมไปแช่น้ำ แล้วนำเท้าไปแช่ก็จะช่วยให้ผิวบริเวณเท้าหนาขึ้น เนื่องจากความฝาดของเปลือกมะขามป้อมจะช่วยตะกอนโปรตีน ทำให้ผิวหนังของเท้าและข้อเท้าหนาขึ้น ทนทานต่อการเกิดน้ำกัดเท้ามากยิ่งขึ้น

7. รักษาแผล แก้ฟกช้ำ รู้หรือไม่ว่าเราสามารถนำเปลือกลำต้นของมะขามป้อมมาบดเป็นผงแล้วโรยที่บริเวณบาดแผลเพื่อรักษาแผลและอาการฟกช้ำได้ด้วย ส่วนใครที่เป็นแผลแล้วหายช้า เป็นแผลแล้วมีน้ำเหลืองไหลเยอะ หรือป่วยเป็นโรคน้ำเหลืองเสีย เราขอแนะนำให้ทานมะขามป้อม 1 ลูก ทุกวันหลังอาหาร เพราะในมะขามป้อมมีวิตามินอยู่มาก โดยเฉพาะวิตามินซี จะสามารถแก้อาการน้ำเหลืองเสียได้ค่ะ

8. รักษาหอบหืดนอกจากแก้ไข้หวัดแล้ว หากใครเป็นหอบหืดยังสามารถนำเมล็ดมะขามป้อมมาตำเป็นผง แล้วชงดื่มกับน้ำร้อน ก็ช่วยรักษาให้หายได้ด้วย

9. แก้อาการผื่นคัน ใครที่มีอาการผิวหนังอักเสบหรือเป็นผื่นคัน เราขอแนะนำให้นำใบมะขามป้อมมาต้มอาบ หรือนำเมล็ดมาเผาแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำไปผสมกับน้ำมัน คนให้เข้ากันจนเหลวข้น แล้วนำมาทาแผล จะช่วยบรรเทาอาการคัน แก้พิษน้ำร้อนลวก และช่วยรักษาแผลได้

10. เป็นยาระบาย แก้ท้องผูก ยางของผลมะขามป้อมและวิตามินซีมีฤทธิ์เป็นยาระบาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายของเราดีขึ้น และแก้อาการท้องผูกได้ ฉะนั้นมะขามป้อมจึงถือเป็นผลไม้อย่างหนึ่งที่ช่วยแก้อาการท้องผูกได้ดี แถมยังมีคนนำไปสกัดเข้าเครื่องยา ทำเป็นยาระบายได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม หากเราทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้มีอาการท้องเสียแทนได้ ดังนั้นควรควบคุมปริมาณการทานในแต่ละวันด้วยนะคะ

11. บำรุงผิว วิตามินซีในมะขามป้อมยังสามารถบำรุงผิวพรรณ ให้กระจ่างใส ชะลอการเกิดริ้วรอย

12. บำรุงผม มีการนำมะขามป้อมมาสกัดทำเป็นยาสระผม มะขามป้อมสามารถบำรุงรักษาเส้นผมให้มีสุขภาพแข็งแรง นุ่มลื่น และยังช่วยทำให้ผมดกดำ ป้องกันผมหงอกได้ด้วย

13. บำรุงร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า เนื่องจากมะขามป้อมมีสารอาหารมากมาย ที่ช่วยบำรุงทั้งผม สมอง ดวงตา คอ หลอดลม ปอด หัวใจ ตับ ตับอ่อน ไต กระเพาะ ลำไส้ และผิวหนัง แถมยังช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย บำรุงกำลัง บำรุงเลือด ลดความดันเลือดสูง และปรับประจำเดือนให้มาปกติได้ จึงบอกได้เลยว่าการทานมะขามป้อมช่วยบำรุงร่างกายเราให้ดีขึ้นได้แทบทุกส่วนจริง ๆ ค่ะ

14. ต้านมะเร็ง มีการวิจัยพบว่าสารฝาดในมะขามป้อมอย่างกรดแกลลิคและสารแทนนินสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งไม่ให้ก่อตัวในร่างกายเราได้ แถมมะขามป้อมยังสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีมาก เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารแทนนินที่ประกอบไปด้วย emblicanin A, emblicanin B, punigluconin และ peduculagin

15. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด การแพทย์ทางเลือกด้านอายุรเวท (Ayurveda) ระบุคุณประโยชน์ของมะขามป้อมไว้หลายด้าน รวมถึงสรรพคุณช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เนื่องจากอุดมไปด้วยสารสำคัญหลายตัว โดยเฉพาะสารเพกทิน (Pectin) และสารฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) ที่มีองค์ประกอบทางเคมีและมีรายงานว่ามีฤทธิ์ช่วยลดไขมันในเลือด

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


 

โสมตังกุย สารสกัดเด็ดเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ

7 ประโยชน์ “โสมตังกุย” สารสกัดเพื่อ “ผู้หญิง” มีรอบเดือน ตังกุย หรือโสมตังกุยเป็นพืชสมุนไพรที่ได้รับนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศ จีน ญี่ปุน และเกาหลี โดยส่วนใหญ่ในตังกุยในการรักษา อาการปวดท้องประจำเดือน, อาการของผู้สูงอายุวัยทอง และอาการอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับผู้หมดประจำเดือน นอกจากนั้นยังใช้ในการรักษา หรือบรรเทาอาการอะไรบ้าง ตาม SI ไปดูกันค่ะ

1. ช่วยบำรุงเลือด
ในช่วงเวลาที่ผู้หญิงมีประจำเดือน ร่างกายจะอ่อนเพลียและเหนื่อยง่ายกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายเสียเลือดมาก จึงมีความต้องการสารอาหารที่จะช่วยสร้างเลือดเพื่อชดเชยกับเลือดที่ร่างกายต้องเสียไป สามารถชดเชยด้วยการรับประทานอาหารจำพวกตับ เนื้อสัตว์ ที่มีธาตุเหล็กเยอะๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่ขึ้นมาทดแทน หรืออาจจะบำรุงเลือดเพิ่มเติมได้ด้วยการรับประทาน “สมุนไพร” โสมตังกุย ที่มีสรรพคุณการสร้างเลือด บำรุงเลือด และฟอกเลือด

2. รักษาโรคโลหิตจางในผู้หญิง
สมุนไพรตังกุยมีตัวยาที่สำคัญ ช่วยสร้างความเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวลให้กับผู้หญิง ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สมุนไพรตังกุย ยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคโลหิตจาง เพราะในตังกุยอุดมไปด้วย วิตามินบี 12 ซึ่งจำเป็นต่อการสร้างเลือด และยังช่วยให้ระบบการหมุนเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น

3. แก้ปวดประจำเดือน
ตังกุย ถูกขนานนามว่าเป็น โสมสำหรับสตรี มีสารสำคัญคือ Ligustilide, Vitamin B12 จึงถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดประจำเดือน ขับประจำเดือน ป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้เป็นอย่างดี

4. ยับยั้งเนื้องอกในมดลูก รังไข่
มีงานวิจัยที่พบว่าตังกุยช่วยยับยั้งการเจริญของเนื้องอก เช่น เนื้องอกในมดลูก เนื้องอกรังไข่ และมีฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งต่างๆ ต้านการอักเสบ และรักษาโรคหอบหืดได้ด้วย

5. รักษาอาการวูบวาบใน “ผู้หญิง”
เหง้าตังกุยนิยมนำมาใช้เป็นยาบำรุงกำลัง ช่วยแก้ปวดเอว ปวดประจำเดือน ขับระดูของสตรี ปรับประจำเดือนให้เป็นปกติ แก้ประจำเดือนผิดปกติ ภาวะขาดประจำเดือน แก้อาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงสูงวัย แก้อาการท้องผูกของสตรีมีครรภ์ แก้รกตีขึ้น แก้ไข้บนกระดานไฟ นอกจากนี้ยังใช้รักษาเกี่ยวกับอาการเลือดออกทุกชนิด

6. ยาแก้ลมสำหรับผู้หญิง
ในบัญชียาจากสมุนไพร ตามประกาศของคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา (ฉบับที่ 5) มีปรากฏการใช้โกฐเชียงหรือตังกุยในยารักษากลุ่มอาการทางระบบไหลเวียนโลหิตหรือยาแก้ลม มีปรากฏในตำรับ “ยาหอมเทพจิตร” และตำรับ “ยาหอมนวโกฐ” ซึ่งเป็นตำรับยาแก้ลมวิงเวียน แก้อาการหน้ามืด ตาลาย ใจสั่น คลื่นเหียน อาเจียน และช่วยแก้ลมจุกแน่นในท้อง เป็นต้น

7. ช่วยฟอกเลือด
เหง้าตังกุยมีรสเผ็ดหวาน เป็นยาร้อนเล็กน้อย ออกฤทธิ์ต่อหัวใจ ตับ และม้าม ใช้เป็นยาบำรุงโลหิต ฟอกเลือด ช่วยรักษาภาวะเลือดพร่อง สีหน้าซีดขาวหรือซีดเหลือง เล็บและริมฝีปากซีด สีลิ้นซีด ช่วยสลายเลือดคั่ง เป็นต้น

ที่มา : greenclinic, medthai

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


จัดเต็ม! สรรพคุณสารสกัดจากเปลือกสน

สารสกัดจากเปลือกสน มีคุณสมบัติ ต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง (Super Anti-oxidation) เเละยังเสริมฤทธิ์การทำงานของ วิตามิน C เเละ วิตามิน E ช่วยป้องกันร่างกายจากอนุมูลอิสระ ที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา รวมทั้ง ปัจจัยภายนอกต่างๆ อันเป็นสาเหตุของ ความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เช่น หลอดเลือด หัวใจ ดวงตา ผิวหนัง รวมไปถึงระบบประสาท และนอกจาก จะสามารถลดความเสี่ยงต่อ การเป็นโรคหัวใจ เส้นเลือดขอด เเละ การอุดตันของลิ่มเลือด โดยจะเข้าไปเสริมความเเข็งเเรงของหลอดเลือด  และสำหรับผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน อัมพาต ยังช่วยให้เลือดนำออกซิเจน ไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้มากขึ้น เเถมยัง ช่วยลดภาวะเเทรกซ้อนจากการติดเชื้อ เเขนขาลีบ เเละกล้ามเนื้ออ่อนเเรง วันนี้ SI มีบทความดีๆ เกี่ยวกับสรรพคุณของสารสกัดจากเปลือกสนมาฝากกันค่ะ

-เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
-เป็นวิตามินบำรุงผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยและทำให้ผิวเรียนเนียนขึ้น
-ช่วยให้วิตามินซีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
– ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ผิว
– ช่วยเพิ่มคอลลาเจน และอิลาสตินในผิว
– ปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำ ฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
– ลดระดับน้ำตาลในเลือด และป้องกันโรคเบาหวาน
– ลดโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง และภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว
– รักษาเส้นเลือดขอด และลดความเสี่ยงของหลอดเลือดดำอุดตัน
– ป้องการเกิดลิ่มเลือด และโรคหัวใจ
– บรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ หอบหืด
– ลดไขมันคอเลสเตอรอลไม่ดี(LDL) เพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี(HDL)
– บำรุงสายตา
– บรรเทาอาการโรคสมาธิสั้น
– บำรุงสมอง ป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
– เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


สารสกัดจากถั่วขาว ตัวช่วยดีๆ ของการควบคุมน้ำหนัก

ถั่วขาว เป็นพืชในตระกูลถั่วที่มีคุณประโยชน์มากมายในตัวมันเอง เพราะให้สารอาหารที่มีประโยชน์หลายอย่าง ทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และมีใยอาหารสูง ขณะเดียวกันในถั่วขาวก็มีคุณสมบัติพิเศษเฉพาะตัว คือ มีสารที่มีฤทธิ์ในการยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์อะไมเลส ที่ใช้ย่อยอาหารประเภทแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ให้กลายเป็นน้ำตาลที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเพื่อให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้

หลายคนอาจจะเคยเข้าใจผิดคิดว่า ไขมันเป็นสาเหตุหลักของการมีน้ำหนักเกินหรือความอ้วน แต่ความจริงแล้วอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่เราทานเป็นอาหารหลักอยู่ทุกมื้อ หรืออาหารมื้อย่อยๆ ที่เราชอบทานกันเป็นประจำทุกวัน ไม่ว่าจะมาในรูปของข้าว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว มะกะโรนี หรือผัดไทย ซึ่งเป็นอาหารที่เรามักลืมไปว่าเป็นเมนูที่ค่อนข้างหนักทั้งแป้งและไขมัน ก็เป็นสาเหตุสำคัญของความอ้วนเช่นกัน ดังนั้นการควบคุมน้ำหนักอีกทางหนึ่งคือ การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่กินมากเกินความต้องการไปนั่นเอง

แล้วสารสกัดจากถั่วขาวจะสามารถจัดการกับคาร์โบไฮเดรตที่มากเกินไปได้อย่างไร?

ด้วยคุณสมบัติพิเศษของถั่วขาวที่สามารถยับยั้งการทำงานของเอ็นไซม์อะไมเลส จึงไม่สามารถย่อยแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่กินเข้าไปให้เป็นน้ำตาลได้ ร่างกายจึงได้รับพลังงานจากแป้งได้น้อยลง จึงไม่มีพลังงานส่วนเกินที่จะเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ได้ ในทางกลับกันเมื่อร่างกายได้รับพลังงานน้อยลง ร่างกายจึงต้องดึงเอาไขมันที่สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมาใช้ นอกจากนี้แป้งที่ไม่ถูกย่อยในทางเดินอาหารก็ยังทำให้เรารู้สึกอิ่มนานขึ้น สุดท้ายก็จะถูกขับถ่ายออกมาจากร่างกาย จึงเป็นที่มาของคุณสมบัติพิเศษจากถั่วขาวที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้โดยที่ ไม่ต้องอดอาหาร

สารสกัดจากถั่วขาว เป็นวัตถุดิบที่ทั่วโลกยอมรับ ที่จะนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่ม อาหาร และอาหารเสริมต่างๆ เพื่อประโยชน์ในการช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่อย่างไรก็ตามขอให้สารสกัดจากถั่วขาวเป็นเพียงตัวช่วยตัวหนึ่งเท่านั้นนะ คะ เพราะคุณควรกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบทุกหมู่อย่างสมดุล ไม่มากไม่น้อยเกินไป และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นั่นจะทำให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักและรูปร่างให้ดูดีได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อ สุขภาพอย่างแน่นอน

ที่มา : sanook.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


สารสกัดจากเมล็ดองุ่นกับ 15 คุณประโยชน์

สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract) จัดเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงและเป็นที่น่าสนใจมากที่สุดตัวหนึ่ง เพราะเปี่ยมด้วยสารฟลาโวนอยด์ซึ่งมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าวิตามินซีและวิตามินอี ถึง 20 เท่า ประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ SI พาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ

ประโยชน์ของสารสกัดจากเมล็ดองุ่น

1.เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ เพราะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง และช่วยเสริมภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย
2. ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยชะลอไม่ให้ผิวหนังแก่ก่อนวัยและแห้งกร้านของเซลล์ผิว ด้วยการเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง
3. ช่วยปกป้องดวงตาหรือโรคที่เกี่ยวกับการมองเห็นอื่น ๆ ด้วยการป้องกันและรักษาโรคต้อหิน ศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อม
4. มีประโยชน์ต่อหัวใจ โดยการช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ
5. ช่วยลดกระบวนการสร้างเม็ดสีที่ผิดปกติอันเป็นสาเหตุของฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ
6. ช่วยลดปัญหาสำหรับผู้ที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอกัน
7. ช่วยในการป้องกันการเกิดโรคข้ออักเสบ
8. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตด้วยการยับยั้งการถูกทำลายของคอลลาเจน
9. ช่วยรักษาความผิดปกติของหลอดเลือดและเส้นเลือดขอด เส้นเลือดฝอยแตก หรือเส้นเลือดฝอยเปราะได้ ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตได้
10. ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ซึ่งสารสกัดจากเมล็ดองุ่นจะเข้าไปทำลายเซลล์สมองจากอนุมูลอิสระ
11. ช่วยบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้ และหอบหืด
12. ช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสต่าง ๆ
13. ช่วยลดอาการอักเสบต่าง ๆ
14. ช่วยรักษาอาการเลือดออกตามไรฟัน ลดแผลในช่องปาก และโรคเริมในช่องปาก
15. ช่วยลดอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในเพศชาย แต่ทั้งนี้ควรออกกำลังกายด้วยเป็นประจำ

ที่มา : disthai.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


5 วิตามินบำรุงสายตา ตาใสปิ๊งจนต้องร้องขอ

สาวหนุ่มวัยทำงานที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา อาจเกิดปัญหาหลายๆ อย่างกับดวงตา เช่น ตาแห้ง ตาพร่า ตาแพ้แสง กล้ามเนื้อตาล้า ซึ่งหากไม่อยากให้ลุกลามกลายเป็นปัญหาสุขภาพ ก็ควรต้องใช้วิธีป้องกันเอาไว้ นอกจากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์แล้ว วิตามิน บำรุงสายตา พวกนี้ก็อาจช่วยได้เช่นกัน วันนี้ SI มีบทความดีๆ ของ 5 วิตามินที่จะช่วยบำรุงสายตาเรามาฝากกันค่ะ

โอเมก้า 3
จะช่วยลดการอักเสบในเปลือกตา หรือบนผิวดวงตา และยังช่วยให้น้ำตาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โอเมก้า3 จะช่วยเรื่องการทำงานของต่อมน้ำตา (meibomian) ซึ่งจะผลิตน้ำมันในตาป้องกันอาการตาแห้ง เราจะได้รับโอเมก้า 3 จากการกินอาหารโดยเฉพาะปลา ปลาจะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ไม่ว่าจะเป็นปลาทูน่า ปลาเซลมอล หรือปลาซาดีน นอกจากนี้ยังสามารถกินวิตามินโอเมก้า 3 ได้

ลูทีน (Lutein) และ ซีแซนทีน (Zeaxanthin)
สารต้านอนุมูลอิสระทั้ง 2 ชนิดนี้จะช่วยกำจัดต้นเหตุที่ทำให้เกิดโรคในดวงตา นอกจากนี้ลูทีนและซีแซนทีนยังช่วยให้ดวงตามีสุขภาพดีและทำงานได้อย่างดีเยี่ยมด้วย ในอาหารเช่น ไข่ ข้าวโพด หรือผักใบเขียวอย่าง ผักขม บล็อกโคลี จะมีลูทีนและซีแซนทีน หรือสามารถกินวิตามินลูทีนและซีแซนทีนในรูปอาหารเสริม ข้อควรระวังคือไม่ควรกินลูทีนเกิน 10 มิลลิกรัมต่อวัน และไม่ควรกินซีแซนทีนเกิน 2 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามิน เอ
ประโยชน์ของวิตามิน เอ ต่อดวงตาคือ ช่วยปรับปรุงการมองเห็น มีผลการวิจัยที่แนะนำว่าการกินวิตามินเอ จะช่วยชะลอการเกิดโรคที่ทำร้ายจอประสาทตา (retina) ได้ นอกจากนี้วิตามินเอยังช่วยป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุ โรคต้อหิน ต้อกระจก และปัญหาเกี่ยวกับดวงตาอื่นๆ อีกด้วย ข้อควรระวังในการกินวิตามินเอคือ ไม่ควรกินเกิน 1,000 หน่วยต่อวัน ถ้ากินวิตามินเอมากเกินไปจะทำให้เสี่ยงเป็นโรคต่างๆ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม หรือโรคเกี่ยวกับกระดูกสะโพกได้

ซิงก์ (สังกะสี)
ซิงก์ หรือสังกะสี เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ เพราะซิงก์ทำงานร่วมกับวิตามินเอ การทำงานของซิงก์คือ ซิงก์จะพาวิตามินเอจากตับไปที่จอประสาทตา เพื่อสร้างเซลล์เมลานิน ซึ่งเป็นสิ่งที่จะปกป้องดวงตาของเรา ถ้าร่างกายขาดซิงก์ ก็จะทำให้ดวงตาเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ ร่างกายของเราไม่สามารถสร้างซิงก์ได้เอง เราจึงได้รับแร่ธาตุซิงก์จากการกินอาหาร เช่น หอยนางรม เนื้อวัว เนื้อหมู โยเกิร์ต นม ไข่ หรือกินซิงก์จากอาหารเสริม ข้อควรระวังในการกินซิงก์ก็คือ ต้องไม่กินเกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน หากกินมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาผิวได้ และบางคนก็อาจเกิดผลข้างเคียงเช่น อาเจียนหรือท้องเสีย ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ก่อนซื้อมากินเอง

วิตามินซี
วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และมีกรดแอสคอร์บิกที่สำคัญต่อเส้นเลือดในดวงตาของเรา วิตามินซีช่วยป้องกันโรคต้อกระจก เราสามารถได้รับวิตามินซีผ่านผลไม้ตระกูลมะนาว เช่น ส้ม องุ่น มะเขือเทศ กล้วย หรือแอปเปิ้ล ข้อแนะนำคือผู้หญิงควรกินวิตามินซีอย่างน้อยวันละ 75 มิลลิกรัม หรือประมาณน้ำส้มคั้น 1 แก้ว ส่วนผู้ชายควรได้รับวิตามินซีมากกว่าผู้หญิงประมาณ 90 มิลลิกรัมต่อวัน

ที่มา : sanook.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


7 ผักผลไม้ธรรมชาติขับสารพิษออกจากร่างกาย

ปัจจุบันประเทศไทยเต็มไปด้วยมลพิษต่างๆ มากมาย รวมไปถึงอาหารที่ทานกันในทุกๆ มื้อก็อาจมีสารพิษเจือปนอยู่ได้ และหากร่างกายได้รับสารพิษในปริมาณมาก ก็อาจทำให้ร่างกายอ่อนแอและส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นวิธีที่ดีเราจะต้องขับสารพิษออกบ้าง และ 7 ผักผลไม้เหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยในการขับสารพิษได้เป็นอย่างดี จะมีอะไรบ้างนั้นตาม si ไปดูกันค่ะ

1.มะละกอ

เริ่มด้วยมะละกอ ผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบ มะละกอขึ้นชื่อในเรื่องของการช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานได้อย่างปกติ และยังสามารถป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ โดยสามารถดักจับสารพิษที่จะเข้ามายังบริเวณลำไส้ใหญ่ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ทำงานได้อย่างปกติ แต่ทั้งนี้ต้องเป็นมะละกอสุก ไม่ใช่มะละกอดิบในส้มตำ ถึงจะให้คุณประโยชน์เหล่านี้ได้

2.สับปะรด

ต่อด้วยสับปะรด ที่อุดมไปด้วยวิตามินและกากใย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย และมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยขับสารพิษที่ไม่จำเป็นออกไป นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีที่จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

3.หัวหอมใหญ่

หลายคนไม่ชอบทานเจ้าหอมใหญ่ แต่คุณรู้หรือไม่! หอมหัวใหญ่มีกรดอะมิโนที่จะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายและยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างปกติ ใครที่ไม่ชอบทานต้องลองเปิดใจ แล้วจะรู้ว่าดีจริง!

4.แอปเปิล

ผลวิจัยจากประเทศฝรั่งเศส พบว่าแอปเปิล เป็นผลไม้ที่สามารถล้างสารพิษในร่างกายได้มากที่สุด เพราะแอปเปิลอุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่จะช่วยในเรื่องขับถ่าย และสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด อีกทั้งยังมีเบต้าแคโรทีน และวิตามินซีที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้ดี

5.แตงโม

แตงโมก็สามารถขับสารพิษออกจากร่างกายได้เช่นกัน เพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่มีส่วนประกอบของน้ำถึง 92% โดยจะช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย และสามารถช่วยขับปัสสาวะได้ ซึ่งสารพิษก็จะถูกขับออกมาได้ง่าย อีกทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก เป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังลดความอ้วนอย่างยิ่งทีเดียว

6.ขิง

ขิงเป็นสมุนไพรที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ โดยจะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายผ่านเหงื่อ อีกทั้งยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น และยังเหมาะสำหรับการเป็นเครื่องดื่มให้กับผู้สูงอายุ เพราะจะช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

7.แก้วมังกร

ปิดท้ายด้วยผลไม้สีสันน่าทาน อย่างแก้วมังกร ที่มีฤทธิ์ช่วยขับสารพิษในร่างกายที่เป็นโลหะหนักได้ดี เช่น สารตะกั่ว ยาฆ่าแมลง อีกทั้งยังช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลจากมะเร็ง

สำหรับใครที่มองหาอาหารเพื่อสุขภาพ ที่จะช่วยขับสารพิษและของไม่ดีในร่างกายได้ 7 อาหารที่เรานำมาฝาก หวังว่าจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย เมื่อทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว การป้องกันตัวเองจากสารพิษ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การเลือกทานผักออร์แกนิค ก็จะช่วยให้ร่างกายของคุณแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเยี่ยมเยือนเช่นกัน โดยเฉพาะโรค Covid-19 ที่เราเผชิญกันในปัจจุบันนั่นเอง

ที่มา : www.sanook.com

หากท่านใดต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


6 สมุนไพรตัวเทพตัวช่วยผลิตคอลลาเจน

คอลลาเจน คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่เกิดจากการรวมตัวของ กรดอะมิโน (Amino Acid) หลายชนิดต่อกัน โดยปกติร่างกายมนุษย์จะมีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบของผิวหนัง กระดูก ข้อต่อ เส้นเอ็น ขน และเส้นผม รวมไปถึงเนื้อเยื่อทั้งหมดในร่างกาย โดยคอลลาเจนจะผลิตได้มากในขณะที่เราอายุยังน้อย และจะค่อยๆ ลดปริมาณการผลิตลงเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น เมื่อปริมาณคอลลาเจนลดลงก็จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับผิวพรรณ เช่น ผิวพรรณขาดความกระชับ หย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย และเกิดความหมองคล้ำ จึงทำให้คนส่วนมากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนมาทดแทนในส่วนที่ขาดหายไปนั่นเอง วันนี้ SI มี 6 สมุนไพรที่ช่วยการผลิตคอลลาเจน จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ

ว่านหางจระเข้ (Aloe) มีส่วนในการรักษาบาดแผลโดยการเพิ่มการผลิตคอลลาเจน

บิลเบอร์รี่ (Bilberry) มีสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้คอลลาเจนคงตัว

ดาวเรือง (Calendula) นักวิจัยเชื่อว่าครีมดาวเรืองจะช่วยรักษาแผลและช่วยให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนได้

หญ้าหางม้า (Horsetail) มีซิลิกา (Silica) เป็นองค์ประกอบซึ่งเป็นสารที่ร่างกายต้องการเพื่อผลิตคอลลาเจนและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

น้ำเต้า (Bottle gourd) มีสารไฟโตเอสโทรเจน (Phytoestrogens) ที่ช่วยป้องกันริ้วรอย อีกทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย

กวาวเครือขาว มีสารกลุ่มไฟโตเอสโทรเจน (Phytoestrogens) และโครมีน (Chromene) ที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน จากงานวิจัยพบว่า ไฟโตเอสโทรเจนและเอสโตรเจนจะช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นหนังแท้ได้ทั้งในเพศชาย และเพศหญิง

ที่มา : www.honestdocs.co

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


อาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายในช่วงโควิด

ในสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังมีการระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (COVID-19) ทำให้สร้างความตื่นกลัวไปทั่ว โดยเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายผ่านละอองน้ำในอากาศได้ หากอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบปิดเป็นระยะเวลานาน และสาเหตุการติดเชื้อส่วนใหญ่ เกิดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ หรือการหายใจเอาละอองน้ำที่มีเชื้อเข้าไป จึงเป็นต้นเหตุให้ผู้ที่ได้รับเชื้อเกิดปอดอักเสบชนิดรุนแรง และอาจทำให้เสียชีวิตได้ทางที่ดีที่สุดคือการเตรียมพร้อมป้องกันนั่นเอง โดยการใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือบ่อยๆ และควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัดและมีมลภาวะเป็นพิษ รวมถึงพื้นที่ที่อากาศปิดเป็นระยะเวลานาน นอกจากนี้การเตรียมสุขภาพร่างกายให้พร้อม โดยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้เราลดความเสี่ยงและความรุนแรงจากการติดเชื้อนี้ได้

โดยระบบภูมิคุ้มกัน (Immune System) คือ ระบบที่ทำหน้าที่ป้องกันเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอม ที่เป็นอันตรายไม่ให้เข้ามาทำอันตรายต่อร่างกายหรือหากเราได้รับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแล้ว ระบบภูมิคุ้มกันก็จะกำจัดสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นให้หมดไปจากร่างกายโดยเร็วและอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเสริมภูมิคุ้มกันก็ทำได้ด้วยการดูแลรักษาตัวเองเบื้องต้นเพื่อให้สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงอยู่เสมอเช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การรับประทานอาหารให้ครบหมู่โดยคำนึงถึงสารอาหารที่ควรได้รับอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะในช่วงนี้การเพิ่มสารอาหารในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันจึงเป็นเรื่องจำเป็นซึ่ง SI มีบทความดีๆ  เคล็ดไม่ลับในการเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมาฝาก ง่ายๆ เลยก็คือ การรับประทานวิตามินและสารอาหารที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

1 วิตามินซี (Vitamin C)
ข้อมูลจากงานวิจัยทางการแพทย์ พบว่าวิตามินซีมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายด้าน รวมถึงการเสริมสร้างความแข็งแรงของภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ มีรายงานว่าผู้ที่มีระดับวิตามินซีในร่างกายสูงจะหายจากการเจ็บป่วยบางชนิดเช่นไข้หวัด และการติดเชื้อไวรัสได้เร็วกว่าคนที่ไม่ได้รับวิตามินซีเสริม โดยวิตามินซีจะพบมากในอาหารประเภทผัก ผลไม้สด โดยเฉพาะผลไม้กลุ่ม Citrus fruits ได้แก่ส้ม มะนาว เกรปฟรุต รวมถึงผักบางชนิดเช่น บรอคโคลี่ กะหล่ำต่างๆ และมะเขือเทศ

2 กระเทียม (Garlic)
มีงานวิจัยทางการแพทย์ยืนยันชัดเจน ถึงคุณสมบัติของสารอัลลิซิน (Allicin) ในกระเทียมที่สามารถต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัสและเชื้อโรคอีกหลายชนิด ทั้งยังช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น เม็ดเลือดขาว และเม็ดเลือดแดงทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานแข็งแรงขึ้น มีข้อมูลที่บ่งชี้ชัดเจนว่าผู้ที่รับประทานกระเทียมเป็นประจำ จะมีโอกาสป่วยลดลงและหายจากอาการป่วยด้วยโรคติดเชื้อเร็วขึ้น

3 เอ็กไคนาเซีย (Echinacea)
เอ็กไคนาเซียเป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งเป็นสมุนไพรที่ช่วยการฟื้นฟูภูมิคุ้มกัน เพิ่มภูมิต้านทาน จากงานวิจัยพบว่าเอ็กไคนาเซียมีคุณสมบัติยับยั้งการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส นอกจากนี้ช่วยกระตุ้นส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันที่มีตามธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายซึ่งก็คือ เซลล์แมคโครฟาจ (Macrophage) และเซลล์ภูมิต้านทานชนิด NK Cell (Natural Killer Cell) ซึ่งเมื่อมีเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในร่างกาย เซลล์แมคโครฟาจในเม็ดเลือดขาว จะเป็นปราการด่านแรกในการทำลายเชื้อโรค ทำให้กำจัดเชื้อโรค และสิ่งแปลกปลอมในร่างกายได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วนเซลล์ภูมิต้านทานชนิด NK Cell ทำให้ระบบภูมิต้านทานโรคกำจัดเชื้อโรคได้เร็วขึ้นกว่าปกติ

ที่มา : พญ.อนงนุช ชวลิตธำรงค์

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน