7 พฤติกรรมทำร้าย “ไต” แม้ไม่ได้กินเค็ม

พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญที่อาจทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอาหารการกิน การใช้ชีวิต การทำงาน ความเครียด ฉะนั้น ลองมาดูกันดีกว่าว่า 7 พฤติกรรมแบบไหนที่อาจทำร้าย “ไต” ของเราได้ คนส่วนใหญ่มักเข้าใจกันว่าสาเหตุของการเกิด ‘โรคไต’ นั้นมาจาการกินอาหารที่มีรสเค็มจัดเพียงอย่างเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าการกินอาหารที่มีรสหวาน หรืออาหารมัน บวกเข้ากับพฤติกรรมของคนโดยเฉพาะคนเมืองที่ทำงานหนัก มีความเครียด ซ้ำยังไม่ชอบออกกำลังกาย มักกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตมาก ทำงานหนัก นอนดึกตื่นเช้า ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูงที่เป็นตัวตั้งต้นของโรคไต SI พาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ

1. ทานอาหารรสจัด

ไม่ใช่แค่รสเค็มจัด แต่อาหารรสจัดรวมไปถึง อาหารหวานจัด เผ็ดจัด หรือแม้กระทั่งมันจัด อาหารรสจัดทำให้ไตทำงานหนักขึ้น จึงมีส่วนทำให้เป็นโรคไตได้เช่นเดียวกันกับอาหารรสเค็ม

2. ไม่ออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายเป็นสาเหตุของหลายๆ โรค ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ไขมันอุดตันเส้นเลือด ไขมันพอกตับ เส้นเลือดอุดตัน โรคหัวใจ และอื่นๆ รวมไปถึงโรคไตด้วยเช่นกัน

3. ดื่มน้ำน้อย หรือมากเกินไป

การดื่มน้ำน้อยเป็นสาเหตุของหลายๆ โรคเช่นกัน (อ่าน 6 โรคร้ายถามหา ถ้า “ดื่มน้ำน้อย”) รวมไปถึงโรคไตด้วย เพราะไตฟอกของเสียในร่างกาย และต้องใช้น้ำเป็นตัวพาไปสู่การกรองของไตจนกลายเป็นปัสสาวะ หากดื่มน้ำมากเกินไป ไตก็จะทำงานหนักเกินไป แต่หากดื่มน้ำน้อยมากเกินไป (ซึ่งมีโอกาสมากกว่า) ก็จะทำให้ปัสสาวะมีสีเข้ม ซึ่งไม่ดีต่อไต และกระเพาะปัสสาวะด้วย

4. ทำงานหนักเกินไป

เชื่อหรือไม่ว่าการทำงานหนักก็เป็นสาเหตุของโรคไตด้วยเช่นกัน เพราะเมื่อร่างกายขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ อวัยวะภายในร่างกายก็จะไม่ได้รับการฟื้นฟู และซ่อมแซมตัวเองอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน เมื่ออวัยวะที่คอยฟอกของเสียในร่างกายอย่างไตไม่ได้หยุดทำงาน ก็อาจทำให้ไตเสื่อมสภาพลงได้ง่าย

5. ความเครียด

ความเครียดมักมาพร้อมกับการทำงานหนัก หากเครียดมากๆ ร่างกายก็จะพักผ่อนได้ไม่เต็มที่เช่นเดียวกัน นอกจากนี้เมื่อเราเครียด เราจะหายใจเอาออกซิเจนเข้าร่างกาย เพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้ไม่เต็มที่ และไตก็เป็นอวัยวะที่ได้รับผลกระทบจากความเครียดด้วยเช่นกัน

6. ทานอาหารสำเร็จรูป

แม้ว่าคุณอาจจะบอกว่าไม่ใช่คนทานเค็ม แต่หากคุณใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวกล่องในร้านสะดวกซื้อ อาหารกระป๋องต่างๆ หรือแม้กระทั่งน้ำอัดลม โซดา และเครื่องดื่มบางประเภท คุณจะได้รับโซเดียมเข้าไปในร่างกายในปริมาณสูงโดยที่คุณไม่รู้ตัว ดังนั้นทานให้น้อยลงหน่อยนะ

7. ความดันโลหิตสูง

หากใครมีอาการความดันโลหิตสูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยิ่งมีโอกาสที่จะเป็นโรคไตตามมาด้วย เพราะหากปล่อยให้เป็นความดันสูงต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่รีบรักษา ความดันโลหิตสูงนี้จะทำลายเส้นเลือดที่ไต ทำให้ไตถูกทำลาย หรืออาจเรียกว่าเป็น “ไตวายชั่วคราว”

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


5 วิธีปกป้องผิวจากฝุ่น PM 2.5

เมื่อต้องกลับมาเผชิญกับภัยของฝุ่น PM 2.5 อีกครั้ง ซึ่งมีขนาดที่เล็กลงจนเข้าสู่ร่างกายเราได้ง่าย ฝุ่นละอองไม่ใช่แค่ทำร้ายระบบทางเดินหายใจเราเท่านั้น แต่ยังผลเสียต่อผิวเราได้ด้วยค่ะ ทั้งทำให้ผิวเราอุดตัน และยังทำลายคอลลาเจน ทำให้ผิวเราแก่ขึ้นได้ด้วย วันนี้ SI มี 5 วิธี ปกป้องผิว แม้จะเจอฝุ่นหนักแค่ไหน หากเรารู้จักปกป้องและบำรุงผิวอย่างถูกวิธี ก็จะช่วยรักษาผิวไม่ให้เกิดปัญหา และมีสุขภาพดีได้ท่ามกลางสภาพอากาศที่ไม่ค่อยดีก็ตาม

1. สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด

พอก้าวขาออกจากบ้านปุ๊ป หากไม่มีอะไรปกคลุมที่ผิวหนังเลย ก็จะเปิดโอกาสให้ฝุ่นละอองเข้ามาทำร้ายผิวเราได้ง่ายค่ะ วิธีการก็คล้ายๆ การป้องกันฝุ่นละอองเข้าสู่ระบบหายใจ ถ้าไม่อยากสูดละอองฝุ่นเข้าไปก็ใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน และถ้าไม่อยากให้ผิวเราถูกฝุ่นละอองมากเกินไป ก็ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เสื้อควรมีแขน ใส่กระโปรงยาว หรือกางเกงยาวก็จะดีค่ะ ถ้ากลัวร้อนล่ะก็ ขอแนะนำให้เลือกใส่เนื้อผ้าชีฟองก็พอช่วยได้ค่ะ

ส่วนผิวบริเวณหน้า ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันไว้ได้ค่ะ คือได้ประโยชน์ 2 ต่อ ป้องกันไม่ให้ฝุ่นผ่านเข้าไปทางระบบทางเดินหายใจ และป้องกันไม่ให้ถูกผิวหน้าเราได้ด้วย

2. ทาครีมกันแดดปกป้องผิว

พวกหมอกควัน หรือฝุ่นละอองพอมันมาเจอกับแสงแดดหรือแสง UV สามารถทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์ผิวถูกทำร้าย และทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวหนังได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ผิวจะหมองคล้ำ และทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย เพื่อไม่ให้ทั้งฝุ่นและแสงแดดทำร้ายผิวเราได้ ก่อนออกจากบ้านควรปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดอยู่เสมอค่ะ

3. ดื่มน้ำขับของเสียออกจากร่างกาย

เพราะฝุ่นมีขนาดที่เล็กมาก บางทีมันก็อาจจะเข้าสู่ร่างกายเราไปได้ง่ายๆ วิธีการรับมือที่ง่ายที่สุดก็คือ การดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อขับออกเสียเหล่านั้นออกมาค่ะ พอไม่มีของเสียในร่างกาย ก็จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น และที่สำคัญการดื่มน้ำยังทำให้ผิวชุ่มชื้นจากภายในได้อีกด้วยค่ะ

4. กลับมาบ้านต้องล้างหน้าให้สะอาด

แม้เราจะใส่เสื้อผ้าอย่างมิดชิด ใส่หน้ากากอนามัย หรือทาครีมกันแดดปกป้องผิว แต่วิธิการเหล่านี้ก็แค่ช่วยปกปิ้งฝุ่นละอองได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น ตามผิวเราก็ยังคงมีเศษฝุ่นละอองเกาะตามผิวหน้าเราอยู่บ้าง เพื่อกำจัดฝุ่นที่เป็นมลภาวะเหล่านี้ เมื่อกลับถึงบ้านควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจดค่ะ ไม่เหลือเศษฝุ่นติดค้างอยู่ในรูขุมขนเรา วิธีการก็คือควรเลือกโฟมล้างที่อ่อนโยน แต่ทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ก่อนล้างหน้าควรใช้ Cleansing เช็ดเครื่องสำอางออกให้หมด และปิดท้ายด้วยการใช้โทนเนอร์เช็ด ยกระดับความสะอาดไปอีกขั้นค่ะ

5. ฟื้นฟู บำรุงผิวให้แข็งแรงอยู่เสมอ

สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือ “การบำรุงผิว” ค่ะ คือเราไม่รู้แน่ชัดว่า ออกไปจากบ้านแล้วผิวเราจะถูกฝุ่นทำร้ายมากแค่ไหน ดังนั้น เราจึงควรให้ความสำคัญกับการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงด้วยค่ะ ด้วยการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Epidermist 4.0 อย่างน้อยก็ช่วยกู้ผิวพังให้แข็งแรงขึ้น และการมีผิวแข็งแรงก็จะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก แบคทีเรีย หรือแม้แต่ฝุ่นละอองเข้าสู่ผิวได้ง่ายด้วย

ที่มา : idskinexpert.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


5 ความเชื่อผิดๆ เรื่องสุขภาพฉบับวัยทำงาน

วัยหนุ่มสาวหรือวัยทำงาน เป็นวัยที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีพลังกายพลังใจสูง ทำให้หลายคนมีค่านิยมในการทำงานหนักเพื่อสร้างความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เช่น นั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำงานหามรุ่งหามค่ำ จริงจังกับการทำงานทุกเวลา และเชื่อว่าการทำงานหนักคือการพัฒนาสมองไปในตัว แต่ความเป็นจริงนั้น หากทำงานหนักจนละเลยจุดสมดุลของชีวิต พักผ่อนไม่เพียงพอ อาจส่งผลให้สมอง อ่อนล้า เสื่อมเร็ว และเซลล์สมองตายเร็วกว่าปกติ เนื่องจากสมองถูกใช้งานหนักเกินไป วันนี้ SI มีบทความดีๆ เกี่ยวกับ 5 ความเชื่อผิดๆ เรื่องสุขภาพที่ทำร้ายร่างกายเราโดยไม่รู้ตัวมาฝากกันค่ะ

ดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้อายุยืน

แม้บางงานวิจัยสนับสนุนว่าการดื่มแอลกอฮอลล์ในปริมาณที่พอดีช่วยให้อายุยืน แตไม่ได้หมายความว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ทุกประเภทจะให้ผลได้แบบนั้น เพราะผลวิจัยล่าสุดโดยนักวิจัยคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอนเนตทิคัต สหรัฐอเมริกา พบว่า “เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่มีผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ไม่ใช่เหล้า เบียร์ แต่เป็นไวน์แดง เพราะไวน์แดงมีสาร ต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ช่วยป้องกันอาการหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ควรดื่มเป็นประจำทุกวัน ในปริมาณ ที่เหมาะสมหรือวันละ 1 แก้วเท่านั้น” จึงจะดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง

ความอ้วน เสี่ยงอายุสั้น

หนุ่มสาวยุคนี้มีค่านิยมต่อรูปร่างที่ดีสมส่วนมากขึ้น หันไปฟิตเนส ลดไขมัน ลดหน้าท้อง แต่ก็นำไปสู่ความเสี่ยงการเป็น “โรคคลั่งผอม” หรือ “โรคกลัวอ้วน” ที่เพิ่มโอกาสเสี่ยงตายเร็วกว่าคนปกติทั่วไปถึง 9 เท่า เนื่องจากอดอาหาร และ เลือกจำกัดปริมาณและชนิดของอาหารมากเกินไป ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารในที่สุด ซึ่งความเชื่อนี้เองที่เป็นผลร้ายต่อร่างกายมากกว่า “คนที่อ้วนเกินเกณฑ์เล็กน้อย” เพราะการอดอาหารส่งผลเสียกับร่างกาย ระบบประสาทและสมองได้พอๆ กับการอดหลับอดนอนเป็นระยะเวลานานๆ

อาหารเสริม ทางลัดสุขภาพแข็งแรงและหุ่นดี

จะเห็นได้ว่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีอาหารเสริมมากมาย เช่น อาหารเสริมเพื่อความงาม อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ วิตามินเสริมอาหาร ให้เราได้เลือกซื้อมาทานกันมากขึ้น แต่การหวังผลลัพธ์ให้สุขภาพดีหรือรูปร่างดีด้วยการทานอาหารเสริมเพียงอย่างเดียวโดยไม่ออกกำลังกาย ไม่ควบคุมอาหารควบคู่กันไปอาจทำให้ร่างกาย เสี่ยงต่อการขาดสารอาหารที่จำเป็น ทั้งยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงต่อตับและไตวายได้ในระยะยาว

มีเพศสัมพันธ์ ช่วงมีประจำเดือน “ไม่ท้อง”

การมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ความเชื่อผิดๆ เช่น การนับหน้า 7 หลัง 7 มีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีประจำเดือน ไม่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องจริงอีกต่อไป เพราะทางการแพทย์พบว่าสเปิร์มที่แข็งแรงมีอายุอยู่ได้นานสูงสุด 3-7 วัน และร่างกายผู้หญิงสามารถผลิตไข่ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังหมดประจำเดือนนั่นเท่ากับทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้เสมอ ดังนั้นหากคุณยังไม่พร้อมกับตั้งครรภ์จริงๆ แนะนำให้ใช้วิธีการคุมกำเนิดที่ป้องกันการตั้งครรภ์ได้แน่นอนกว่า เพื่อป้องกันปัญหาไม่พึงประสงค์ในอนาคต ทั้งหมดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเชื่อผิดๆ ที่ถูกบอกเล่าต่อกันมา
ดังนั้นก่อนที่จะเชื่อข้อมูลข่าวสารในโลกออนไลน์ ก็ควรศึกษาและหาเหตุผลสนับสนุนเพิ่มเติมก่อนปฏิบัติตามเพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับตัวคุณเองที่มา : idskinexpert.comหาก

ที่มา : idskinexpert.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


หน้าฝนแล้วทำไม? ผิวขาดน้ำ

ก็ฝนออกจะตกชุ่มฉ่ำขนาดนี้ ความชื้นในอากาศก็มีอย่างเต็มเปี่ยมแต่ผิวก็ยังจะแห้งและขาดน้ำได้ ผิวขาดน้ำมีหลายแบบ ทั้งผิวแห้งและขาดน้ำ กับผิวมันที่ขาดน้ำแยกกันไม่ยากแต่ก็มีสาเหตุคล้ายกันคือมาจากอาการขาดน้ำของผิว เมื่อผิวมีความชุ่มชื่นน้อยก็จะแห้งเป็นธรรมดา แต่การตอบสนองของแต่ละคนจะต่างกันออกไป สำหรับคนที่มีผิวมันง่ายผิวจะตอบสนองด้วยการผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพิ่มมากกว่าปกติเป็นการปรับสมดุลผิวหน้า

อาการผิวขาดน้ำ
สังเกตได้ง่าย ว่าผิวจะมีความแห้ง ผิวตึงโดยเฉพาะหลังอาบน้ำหรือหลังออกแดด บางคนผิวเป็นขุย มีอาการผิวแห้ง-ผิวมันสลับกันได้อย่างรวดเร็ว ผิวหน้าดูอิดโรยไม่สดใส แต่งหน้าไม่ติด เครื่องสำอางหลุดง่าย สำหรับบางคนที่ผิวขาดน้ำมากๆ จะเกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดง ผิวอักเสบ เพราะโครงสร้างของผิวขาดความยืดหยุ่นลงไป

วิธีการแก้ปัญหาผิวขาดน้ำ

1. การล้างหน้า ในฤดูฝนนี้ควรใส่ใจเป็นพิเศษเพราะฝุ่นละอองเกาะติดผิดได้ง่าย เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่สะอาดหมดจดและไม่ทำให้ผิวแห้งหลังล้างหน้า

2. ใช้มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ ที่เติมน้ำให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ ใช้ครีมบำรุงตามสภาพผิวแห้ง – ผิวมัน เพื่อควบคุมความมันของผิวหน้า หากผิวแห้งมากควรเพิ่มผลิตภัณฑ์ประเภท Hydration เติมความชุ่มชื่นให้ผิวเพิ่มอีกอย่าง Pan Dermacare Hydrating gel เจลเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้าอย่างล้ำลึก ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ช่วยเติมเต็มโครงสร้างผิวที่อ่อนแอให้แข็งแรงขึ้น อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวแม้ผิวแพ้ง่าย

3. ดื่มน้ำสะอาดอย่างเพียงพอ ในฤดูฝนและฤดูหนาวคนมักจะละเลยการดื่มน้ำเพราะอากาศที่เย็น นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ผิวแห้งกร้านได้ อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอเพื่อผิวจะได้สวยอย่างที่ใจต้องการ

4. ระวังความเปียกชื้น หากต้องตากฝนก็ควรทำความสะอาดร่างกายทันทีที่มีโอกาส ไม่ควรปล่อยให้เส้นผม หมวก หรือเสื้อผ้าที่อับชื้นอยู่บนผิวและใบหน้าเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ผื่นแพ้ และโรคที่เกิดจากความอับชื้นได้ง่าย

เรื่องอาการผิวขาดน้ำเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าแก้ไขได้จะมีความสุขกับผิวที่อิ่มเอิบอย่างแน่นอน

ที่มา : pandermacare.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


7 โรคต้องรู้! รับมือน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมในต่างจังหวัดที่เกิดขึ้น ของแถมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือ โรคระบาดยอดฮิตที่มากับน้ำ SI ขอมีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับการป้องกันโรค 7 โรคควรรู้เพื่อการป้องกันในช่วงน้ำท่วม เพื่อดูแลรักษาสุขภาพของท่านและครอบครัวที่ท่านรักในช่วงภาวะวิกฤตน้ำท่วมนี้และเราขอส่งกำลังใจถึงผู้ประสบภัยทุกคนให้มีความเข้มแข็ง สามารถกลับคืนสู่สภาวะปกติได้ในเร็ววัน

1. โรคติดต่อทางเดินอาหาร ได้แก่ โรคอุจจาระร่วง บิด ทัยฟอยด์ อาหารเป็นพิษและตับอักเสบจากไวรัสเอ

กลุ่มโรคเหล่านี้ติดต่อโดยการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนเข้าไป

การป้องกัน เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังอาจมีเชื้อโรคปะปนอยู่ จึงควรระมัดระวังอย่าให้เข้าปากและไม่ควรนำมาล้างภาชนะ ถ้วยชาม หรือผักผลไม้ ควรดื่มน้ำที่ต้มแล้ว น้ำฝน หรือน้ำสะอาด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ไม่มีแมลงวันตอม ไม่ขับถ่ายลงในน้ำแต่ควรขับถ่ายลงในภาชนะที่มิดชิด แล้วล้างมือให้สะอาดรวมทั้งก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง หากมีขยะหรือของเสียที่เปียกแฉะควรทิ้งใส่ถุงพลาสติกผูกให้แน่น แล้วทิ้งในที่ที่เหมาะสม หากมีอาการอุจจาระร่วงควรดื่มสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (โออาร์เอส) จนอาการเป็นปกติ ถ้าอาการไม่ดีขึ้น มีไข้ หรือถ่ายเป็นมูกเลือด ควรปรึกษาแพทย์

2. โรคตาแดง เกิดจากน้ำที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่เข้าตา ทำให้เยื่อบุตาอักเสบ มีอาการตาแดง ปวดแสบตา น้ำตาไหลมา

การป้องกัน เมื่อน้ำสกปรกเข้าตา ควรรีบล้างตาด้วยน้ำสะอาด ควรหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วย รวมถึงการใช้สิ่งของที่อาจปนเปื้อนเชื้อโรคร่วมกับผู้ป่วย เช่น ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน เสื้อผ้า หมั่นรักษาความสะอาดมือและร่างกาย หากมีอาการควรรีบปรึกษาแพทย์

3. โรคผิวหนัง ในช่วงภาวะน้ำท่วมขัง โรคผิวหนังที่สำคัญ คือ โรคน้ำกัดเท้าหรือเท้าเปื่อย มักมีสาเหตุมาจากเชื้อรา ซึ่ง

เจริญเติบโตได้ดีบริเวณซอกผิวหนังที่อับชื้น อาการระยะแรกจะเกิดผิวหนังอักเสบมีตุ่มใสบริเวณง่ามเท้า มีการระคายเคืองและคันมากจนแตกเป็นแผล ซึ่งจะทำให้มีอาการอักเสบจากการติดเชื้อแทรกซ้อนได้

การป้องกัน หลังจากย่ำน้ำแล้วควรล้างเท้าให้สะอาด เช็ดให้แห้งโดยเฉพาะตามง่ามเท้า อาจโรยด้วยแป้งฝุ่น

ถ้าเป็นไปได้ควรสวมรองเท้าบูทเพื่อกันน้ำ หากมีอาการเท้าเปื่อยควรทาด้วยขี้ผึ้งรักษาน้ำกัดเท้า หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

4. ภัยจากสัตว์มีพิษกัดต่อย งู และสัตว์มีพิษต่างๆ เช่น แมลงป่อง ตะขาบ อาจหนีน้ำขึ้นมาบนบ้านโดยเฉพาะ

บริเวณที่มืด

การป้องกัน หากมีความจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือเดินในที่มืดหรือเวลากลางคืน ควรต้องให้มีแสงสว่างอย่างเพียงพอและระมัดระวังเป็นพิเศษ หากถูกสัตว์เหล่านี้กัดหรือต่อยควรรัดเหนือบริเวณแผลด้วยผ้าหรือสายยางให้แน่นแล้วรีบไปพบแพทย์ทันที คลายผ้าหรือสายยางที่รัดออกเป็นระยะๆ ทุก 10 นาที เพื่อให้เลือดไหลเวียนบ้าง

5. เลปโตสไปโรซิส (โรคฉี่หนู) เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดความผิดปกติในการทำงานของตับและไต ผู้ป่วยจะมี

อาการไข้ ปวดกล้ามเนื้อน่องมาก ตาแดง ต่อมามีอาการตัวเหลือง และอาจบวมบริเวณหลังเท้าและหนังตา โรคนี้ติดต่อโดยเชื้อโรคที่ผ่านมากับปัสสาวะของหนูที่อยู่ในน้ำแล้วไชเข้าสู่ผิวหนัง

การป้องกัน เมื่อจะต้องย่ำน้ำควรสวมรองเท้าบูทยาง กำจัดหนูที่เป็นพาหะนำโรค ถ้ามีอาการของโรคนี้ควรรีบไปพบแพทย์

6. โรคติดต่อทางเดินหายใจ ได้แก่ ไข้หวัด ทอนซิลอักเสบ หลอดลมอักเสบ ติดต่อโดยการหายใจเอาเชื้อที่อยู่ใน

ละอองน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วยเข้าไป หรือใช้สิ่งของภาชนะร่วมกับผู้ป่วย ผู้ที่มีร่างกายอ่อนเพลีย ตรากตรำ และอยู่รวมกันอย่างแออัด จะมีโอกาสติดเชื้อและป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่าย ผู้ป่วยมักจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดเมื่อย อาจมีอาการไอร่วมด้วย

การป้องกัน ควรรักษาร่างกายให้แข็งแรงและอบอุ่นอยู่เสมอ ไม่สวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เปียกชื้นนานเกินไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรพบแพทย์

7. ภัยจากอุบัติเหตุ ที่พบบ่อย คือ

ถูกวัตถุหรือของมีคมตำหรือบาด ได้แก่ หนาม ตะปู เศษแก้วหรือกระเบื้อง ทำให้มีบาดแผลและอาจติดเชื้อแทรกซ้อนได้
อุบัติเหตุจากการถูกไฟฟ้าดูด เมื่อร่างกายเปียกน้ำหรืออยู่ในที่ชื้นแฉะ กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านร่างกายได้

1. ควรระมัดระวังเป็นพิเศษขณะเดินในน้ำ ถ้าเป็นไปได้ควรสวมรองเท้าบูท หากมีบาดแผลควรล้างแผลด้วยน้ำสะอาดเพื่อล้างสิ่งสกปรกในบาดแผลออกให้มากที่สุด แล้วใส่แผลด้วยยาฆ่าเชื้อ

2. หากระดับน้ำท่วมขังถึงสวิตช์หรือปลั๊กไฟฟ้า ควรตัดกระแสไฟฟ้าที่แผงสวิตซ์รวมก่อน และย้ายสวิตซ์ ปลั๊กและอุปกรณ์ไฟฟ้าให้พ้นจากระดับน้ำ ห้ามต่อสายไฟและจับต้องปลั๊กไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขณะที่ตัวอยู่ในน้ำหรือขณะที่ตัวเปียก

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


9 สารสกัดสุดเทพ! บำรุงสมองและสายตา

การมีสมองและสายตาที่ดีเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เพราะทั้ง 2 ส่วน มีบทบาทต่อการทำงานของอวัยวะหรือระบบอื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบประสาท การเคลื่อนไหวของแขน ขา ไปจนถึงการเดิน การทรงตัว และความจำ ปัจจุบันคนไทยมีความเสี่ยง  ในการเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาทสมอง และสายตา มากขึ้น เนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป วันนี้ SI มี 10 สารตัวเทพ ที่จะช่วยบำรุงและยืดอายุการใช้งานของสมองและสายตาของเราจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ

โกจิ เบอร์รี่ มีวิตามินซีสูง ที่จำเป็นต่อการกรองแสงสีฟ้า ช่วยป้องกันการเสื่อมของสายตา

แป๊ะก๋วย มีสารเทอร์ปีนอยด์และฟลาโวนอยด์ช่วยปกป้องการเสื่อมของสมองได้

ทอรีน ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา และยังลดภาวะ oxidative stress ที่ส่งผลให้เกิดภาวะจอตาเสื่อม

Bilberry รักษาอาการในคนที่ตาบอดกลางคืน หรือมองเห็นในที่สลัวไม่ชัดเจน ช่วยป้องกันการเสื่อมของดวงตา แถมยังช่วยลดระดับความรุนแรงของคนที่สายตาสั้น

วิตามินบีรวม วิตามินเป็นเหมือนส่วนเติมเต็มให้ระบบในร่างกายทำงานได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น วิตามินบีจำเป็นต่อระบบของประสาท ให้สมองทำงานได้ลื่นไหลเต็มที่

L-ornithine ช่วยในเรื่องของความจำ สมาธิ การตื่นตัว ความอ่อนเยาวน์ การนอนหลับ การฟื้นฟูร่างกาย การออกกำลังกาย และการสร้างกล้ามเนื้อ

L-arginine เป็นกรดอะมิโนที่ช่วยในการกระตุ้นการหลั่งของ growth hormone ได้เช่นกัน แถมยังทำงานในวงจรควบคู่กับ L-ornithine ในการกำจัดของเสียในร่างกาย

L-lysine ทำหน้าที่ในการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนอารมณ์ดีที่ชื่อ ซีโรโทนิน ซึ่งช่วยในเรื่องของ สมาธิดีขึ้น ควบคุมอารมณ์ให้เหมาะสม ผ่อนคลายความเครียด ลดหรือบรรเทาความซึมเศร้าลง และช่วยทำให้หลับได้ดีขึ้น

สารสกัดจากขมิ้นชัน ช่วยลดการอักเสบ ป้องกันเซลล์เสื่อมก่อนวัยซึ่งสารตัวนี้ข้อดีคือช่วยปกป้องได้ทั่วร่างกาย

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


ปลุกกระแสสเต็มเซลล์เทรนด์น่าจับตาในธุรกิจความงาม

การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อพัฒนาข้าวไทยให้มีมูลค่ามากขึ้น  ล่าสุดมีการผลิตเครื่องสำอางจากสเต็มเซลล์ข้าว (สารสกัดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อข้าว) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความแข็งแรง มีฤทธิ์ต้านการเกิดออกซิเดชั่น ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระ (Free-radical) รวมถึงช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว และได้นำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเครื่องสำอางคุณภาพสูง

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปัจจุบันที่ใช้สเต็มเชลล์จากพืชหรือสัตว์เป็นส่วนประกอบและอ้างอิงสรรพคุณหรือฤทธิ์ในการชะลอความชราและลดริ้วรอยนั้น ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานการศึกษาวิจัยถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ สารสกัดสเต็มเซลล์ที่ใช้ยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสเต็มเซลล์มีราคาสูงตามไปด้วย

“สารสกัดจากสเต็มเซลล์จากข้าวไทย” ได้รับการพัฒนาคิดค้นโดยนักวิจัยไทย  ซึ่งได้เพาะเลี้ยงสเต็มเชลล์โดยใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบ โดยการใช้เทคโนโลยีหนี่ยวนำให้เกิดสเต็มเซลล์ และศึกษาประสิทธิภาพของสารสเต็มเซลล์จากข้าวซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ชะลอความชรา คุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งฤทธิ์ต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสเทียบเทียบเท่าหรือเหนือกว่าสารสกัดสเต็มเซลล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์สารออกฤทธิ์ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางได้ ซึ่งนับเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยได้อย่างดีเยี่ยม โดยสารสกัดออกฤทธิ์ในการลดริ้วรอย อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง และทำให้ผิวดูสว่างสดใส มีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญสามารถผลิตได้ในประเทศ ซึ่งทำให้ราคาวัตถุดิบถูกลง ส่งผลให้สินค้ามีต้นทุนต่ำ สามารถตั้งราคาและทำการตลาดได้ง่ายกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ

ธุรกิจความงาม ซึ่งมีมูลค่ากว่าสามแสนล้านบาท ยังพัฒนาไปได้อีกยาวไกล แต่ที่ผ่านมาธุรกิจนี้ในเมืองไทยส่วนใหญ่ซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราจะเอาสมุนไพรมาขย้ำๆ แล้วใส่ในเครื่องสำอางขายในตลาดโลกได้หรือเปล่า นี่คือ กับดักของกลุ่มโอท็อป ถ้าอย่างนั้นชุมชนจะมีโอกาสนำนวัตกรรมที่เราคุยตรงนี้มาใช้ประโยชน์ได้ไหม ทั้งๆ ที่ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าไปต่างประเทศ แต่ไม่มีแบรนด์ของประเทศที่ชาวต่างชาติรู้จัก

เขามองเทรนด์ของธุรกิจเครื่องสำอางว่า ตอนนี้ทางยุโรปกำลังตามเอเชีย ต่อไปครีมบำรุงผิวต่างๆ อาจไม่ได้ขายเป็นกระบุก ผู้ผลิตสินค้าอาจมีการส่งวัตถุดิบให้ไปลูกค้าผสมที่บ้านเลย เพื่อใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว และฤดูกาลที่แตกต่าง

“ตลาดแบบเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ เทรนด์นี้มาแน่ สังเกตไหมมีการสั่งตัดรองเท้าเฉพาะคนๆ นั้น อะไรก็ตามที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ นั่นคือ ใช่ อย่างน้ำมันรำข้าว เรากินแล้วดีต่อร่างกาย ก็ต้องดีต่อผิว โจทย์ของน้ำมันรำข้าว จะเป็นโจทย์หนึ่งในเรื่องวัตถุดิบตัวใหม่ในอนาคตที่จะนำมาใช้กับผลิตสินค้าได้หลากหลาย

ที่มา : bangkokbiznews.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


14 สมุนไพรตัวท็อป รู้ไว้ก่อนไตพัง

ไต  เป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดง ซึ่งการทำงานของไตมีความสำคัญต่อสุขภาพในภาพรวม ทั้งนี้ไตมีหน้าที่ทำให้เลือดสะอาด ควบคุมปริมาณน้ำภายนอกเซลล์ ระดับอิเล็กทรอไลต์ และค่า PH ภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่ควบคุมการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และควบคุมความดันโลหิต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรนำนิสัยที่ดีต่อสุขภาพมาปรับใช้ เพื่อให้ไตทำงานได้ราบรื่น และป้องกันไม่ให้โรคร้ายมาถามหา วันนี้ SI จะพาทุกคนไปทำความรู้จักสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงไตให้แข็งแรงสมบูรณ์และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกันนะคะ

1. กระวาน แพทย์แผนไทยใช้กระวานเป็นยาขับลม ช่วยกระจายเลือดและขับพิษออกจากกระแสเลือด ซึ่งสามารถนำทุกส่วนของกระวานมาต้มดื่มจะช่วยบำรุงไตทางอ้อมเพราะสามารถลดปริมาณของเสียในเลือดทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักมาก

2. กระเจี๊ยบแดง ส่วนที่นำมาใช้เป็นสมุนไพรฟอกเลือดบำรุงไตให้เน้นไปที่ดอกสีแดงสด กระเจี๊ยบแดงมีสรรพคุณทางสมุนไพรมาก ชงกับน้ำร้อนดื่มแก้กระหาย ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ บำรุงเลือด แก้โรคนิ่วในไต แก้นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

3. งาขาว งาขาวบดต้มกับน้ำ ดื่มเป็นยาบำรุงร่างกาย วิธีง่ายๆใช้งาขาวหนึ่งหยิบมือ บดในครกจนแตกละเอียด ต้มกับน้ำ ผู้ป่วยโรคไตควรดื่มน้ำงาขาวบ่อยๆ จะช่วยลดภาระการทำงานของไต เพราะช่วยขับเลือดเสีย ทำให้ไตทำงานน้อยลง ส่งผลให้ไตของผู้ป่วยชะลอการเสื่อมได้ยิ่งดี

4. ใบบัวบก ใบบัวบกนับว่ามีประโยชน์โดยตรงสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต เพราะมีสารสำคัญหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบโลหิตโดยตรง อาทิเช่น ไตรเตอพีนอยด์(อะซิเอติโคไซ) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความหยืดหยุ่นเพื่มมากขึ้น ช่วยลดความดันโลหิตสูง และป้องกันเส้นเลือดฝอยแตกได้เป็นอย่างดี

5. เห็ดหลินจือ เห็ดหลินจือเป็นที่คาดหวังกันไว้ว่าจะสามารถบรรเทาหรือรักษาโรคไตเรื้อรังได้ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ได้นำสรรพคุณของเห็ดหลินจือมาทดลองรักษาผู้ป่วยโรคไต ปรากฏว่าช่วยลดปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะได้ และช่วยชะลออาการไตเสื่อมได้ดี

6. ขิง สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตดื่มน้ำขิงบ่อยๆจะดี ดื่มเพื่อบำรุงไต เพราะช่วยลดการอักเสบภายใน ตลอดจนเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่ภายใน สลายนิ่วและสิ่งอุดตัน ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ตลอดจนช่วยกำจัดพิษที่ตกค้าง

7. เก๋ากี้ฉ่าย สำหรับผู้ป่วยโรคไต ชาเก๋ากี้ดื่มบ่อยๆจะช่วยลดภาระให้แก่ไต ไม่ว่าจะเป็นการลดไขมันในกระแสเลือด ช่วยดูดซึมน้ำตาล ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยชะลอการเสื่อมของไต

8. ผลหม่อนหรือเรียกว่าลูกหม่อน กินสดทั้งผล มีสารประกอบของวิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์สูงมาก บำรุงไต แก้อาการอักเสบของเนื้อไต(ลูกหม่อนหาทานยากเสียหน่อย แต่บำรุงไตดีมาก)

9. เกสรหรือไหมข้าวโพดและซังข้าวโพด เอาตากแห้งแล้วต้มน้ำดื่มแทนน้ำ แก้ไตอักเสบ ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ คนที่เป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย ทานสูตรนี้ยิ่งดี รสไม่หวาน ข้าวโพดหาซื้อมาทำเองได้ง่าย

10. ใบข่อย ใช้ต้มน้ำแบบใบชาดื่มแทนน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ ลดภาระของไต

11. เตย ใบ ต้น และรากหรือเหง้าของเตย ต้มดื่มแทนน้ำ แก้กระษัย ขับปัสสาวะ

12. หญ้าใต้ใบ ทั้งต้น ต้มกับน้ำจนเดือด เคี่ยวนาน 15 นาที กระตุ้นสมรรถภาพไต

13. ต้นหญ้าหนวดแมว หั่นตากแห้งชงกินแบบน้ำชาต่างน้ำ แก้กระษัย ทำให้ไตมีกำลัง ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจต้องระมัดระวัง ถ้าใช้หญ้าหนวดแมวแล้วอาจทำให้หัวใจสั่น เพราะหญ้าหนวดแมวมีฤทธิ์บีบหัวใจ

14. ถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง หรือเต้าหู้ จะมีสารจากถั่วเหลืองที่ชื่อไอโซฟลาโวน หรือเจนีสเตอิน บำรุงไต

ที่มา : แพทย์แผนไทย

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


3 สิ่งต้องทำ! ถ้าไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัยอันควร

ธรรมชาติสร้างมนุษย์มาพร้อมกับความสวยงาม โดยเฉพาะผู้หญิง เรื่องความสวยความงามจึงเป็นเรื่องคู่กัน แม้อายุยังน้อย ริ้วรอย ร่องลึก หรือความหมองคล้ำยังไม่ค่อยมีมาให้เห็น แต่ก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน วันนี้ SI มีเคล็ดไม่ลับฉบับสาววัย 20-30 มาฝากกันค่ะ บำรุงก่อนได้เปรียบนะคะ

1. เลือกเครื่องสำอางให้เป็น
– Baby Sun Block กันแดดควรปกป้องผิวหนังจากรังสีของดวงอาทิตย์ SPF 25-30
– MAKE UP รองพื้น ควรใช้ Blemish Balm หรือ BB เพราะจะบางเบากว่า Foundation แป้งฝุ่น ใช้ในการเริ่มการแต่งหน้า เพื่อที่จะเซตครีม เซตบีบี ให้เข้าที่ นอกจากนี้ ควรมีแป้งพัพติดตัวไว้สำหรับเติมระหว่างวัน
– การล้าง Make Up ควรใช้ Cleansing Milk หรือ Cleansing Oil แล้ว ล้างออกด้วยโฟมอ่อน หรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนเพื่อล้างเมคอัพออกให้หมด

2. บำรุงให้ถูกวิธี
ในช่วงวัยนี้ Natural Moisturizer Factor ยังสมบูรณ์ จึงไม่ต้องบำรุงมาก แนะนำว่าควรดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น การเลือก บำรุงผิวควรเลือกสารที่ให้ความชุ่มชื่นคือ NaPCA เป็นหลัก ซึ่งจะลดการระคายเคือง ได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดสิว และอาจต้องเสริมไวตามินต่างๆ ในการบำรุงที่มีสารช่วยลดการตึงของผิว สิ่งที่ต้องมองเพิ่มเติมคือ ควรมี Hyaluronic อยู่ในส่วนผสม เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื่นอุ้มน้ำเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ นอกจากนี้ควรมีสเปรย์ฉีดผิวหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน สามารถฉีดระหว่างวันได้เพื่อเติมความสดชื่น ให้หน้ากระชับ

3. สิ่งที่ควรระวัง
ช่วงวัยนี้เริ่มมีการแต่งหน้าเพิ่มมากขึ้น ควรทดสอบเครื่องสำอางก่อนใช้ และควรทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าของเราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันแบคทีเรียและฝุ่นละออง
Tip : การเลือกเครื่องสำอางที่ถูกต้องให้ดูที่ฉลาก ให้เลือกคำว่า Non Comedogenic, Sensitive Skin, Demartology Test การทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง Opthamologist Test การทดสอบโดยแพทย์ทางตา Lanolin Free ปราศจากสารลาโนลิน, Alcohol Free ปราศจากสารแอลกอฮอล์, Fragrance Free ปราศจากกลิ่นหอม, และอย่างสุดท้าย Comedone Free ไม่ก่อให้เกิดขึ้นสิว

ที่มา: paolophahol.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


12 คุณประโยชน์จาก “โสม” ที่ไม่ได้มีดีแค่กับคนชรา

โสม สมุนไพรบำรุงร่างกายชั้นดีที่ได้ขนานนามว่า “ราชาแห่งสมุนไพร” เพราะเพียงปลายรากเล็กๆ แต่กลับมากด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสมอง บำรุงเลือด เพิ่มพลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชาย และอีกมากมายตามที่เลื่องลือกันมา แต่ด้วยค่านิยมผิดๆ ที่คิดว่าโสมเอาไว้บำรุงคนแก่เท่านั้น วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จัก 12 คุณประโยชน์ของโสมกันนะคะ

โสมช่วยลดการปวดประจำเดือน
ประโยชน์ในเรื่องนี้เอาใจสาวๆ ไปได้เลย เพราะผู้หญิงที่ต้องเจอภาวะปวดประจำเดือนทุกเดือนนี้มันช่างทรมานจริงๆ โดยมีนักวิจัยคิดค้นและยืนยันมาแล้วว่า โสมมีฤทธิ์ช่วยปรับฮอร์โมนในผู้หญิงช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และยังช่วยปรับฮอร์โมนสำหรับผู้หญิงที่กำลังเข้าวัยทองอีกด้วยช่วยลดอาการผมร่วง ป้องกันภาวะผมบางและหัวล้าน


โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือด ทำให้ร่างการสร้างเซลล์ PAPILLA ได้มากขึ้น ซึ่งเซลล์ PAPILLA เป็นเซลล์ที่ช่วยให้อายุของเส้นผมอยู่ได้นานขึ้น ไม่หลุดร่วงง่าย และยังช่วยให้ผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง ป้องกันการเกิดภาวะผมบาง ศีรษะล้าน เสียบุคลิกภาพ


ช่วยบำรุงผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
เนื่องจากโสมมีสาร Phytonutrients และสาร Anti-Oxidants จึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยดูแลคอลลาเจนในผิวชั้นกลางทำให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึง แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิมออกมา


ช่วยลดปัญหารอบดวงตา
สาวๆ คนไหนกำลังเจอปัญหานี้ ใช้อายเจลหมดไปหลายกระปุกก็ยังไม่ช่วย ต้องมาลองใช้โสมกันดู เพราะโสมมีสาร Saponin ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ใต้ผิวหนังรอบดวงตาให้แข็งแรงขึ้น จึงสามารถช่วยแก้ปัญหารอยดำหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดอาการบวมของถุงใต้ตา ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม


ยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่, มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปอด
Ginsenosides ในโสมมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในรังไข่ เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก และเซลล์มะเร็งปอด ได้เป็นอย่างดี จากการวิจัยของนักวิทยาสาสตร์ค้นพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง 3 กลุ่มนี้ที่ได้รับประทานโสมอย่างต่อเนื่อง จะสามารถประคองอาการของโรค และมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานกว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานโสม


ช่วยรักษาและป้องกัน โรคเบาหวาน
โสมมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสในร่างกายไปใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้งไปกระตุ้นให้ตับอ่อนสามารถเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ช่วยรักษาโรคและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี


ช่วยในการลดน้ำหนัก
โสมเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักและไขมันได้ โดยการที่โสมช่วยปรับสภาพให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง และกระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้งานได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการสะสมไขมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย


ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
อย่างที่เราคุ้นหูกันดีว่าโสมเป็นยาโดปชั้นดีของเหล่าสุภาพบุรุษ เพราะโสมสามารถไปเพิ่มปริมาณไนตริกออกไซในร่างกาย ทำให้สามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นอย่างดี


ลดอาการความดันโลหิตสูงและต่ำ
โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือดและปรับสมดุลต่างๆ ในร่างกาย ร่วมถึงปรับการหมุนเวียนของเลือดในร่างกายด้วย เพียงมีข้อพึงระวังในการใช้โสมของผู้ป่วยความดันโลหิตอยู่นิดนึงว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรรับประทานโสมขาว และผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำควรรับประทานโสมแดง เพราะโสมทั้ง 2 ชนิดนี้ออกฤทธิ์แตกต่างกัน


ลดความเครียด แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ
Ginsenosides ในโสมจะช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางตื่นตัวทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยคลายความปวดเมื่อย ซึ่งจะช่วยทำให้หลับสนิท และตื่นมาไม่งัวเงีย กระปรี้กระเปร่า อีกทั้งโสมจะช่วยต้านความเครียด เพราะมีสาร Adaptogens จะช่วยให้ร่างกายให้ผ่อนคลาย ปรับสภาวะจิตใจให้คงที่ ลดภาวะโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย


ช่วยบำรุงสมองและระบบความจำ
ในส่วนข้อนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องทำงานใช้ความคิดทั้งวัน หรือเด็กนักเรียน นักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวสอบ เพราะโสมมี Ginsenosides ที่จะช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาท ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทของระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ปรับกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น


ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ต่างๆ
โสมช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล จึงทำให้สามารถป้องการการติดเชื้อต่างๆ ได้ดี ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ ร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย ไอจามบ่อยๆ หากได้รับประทานโสมจะสามารถลดอาการเหล่านี้ลงได้อย่างดีเลยทีเดียว

ข้อควรระวังในการทานโสม

แม้ว่าโสมจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง แต่หากทานโสมแล้วเกิดอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีผื่นแดง หรืออาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้การเลือกชนิดของโสมก็มีความจำเป็น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรทานโสมแดง เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อน และความดันโลหิตให้กับร่างกายได้ ควรเลือกทานเป็นโสมขาวที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดความดันโลหิตจะดีกว่า และหญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานโสมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโสมชนิดใดก็ตาม

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน