Anti-Aging หยุดความแก่ด้วย 4 เทคนิคง่ายๆ

คำว่า  Anti Aging  ที่เรามักได้ยินกันอยู่บ่อยๆ นั้น ในทางการแพทย์หมายถึงการชะลอวัย หรือการฟื้นฟูการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ที่จะช่วยทำให้คุณเข้าสู่ความชราช้าลง โดยมีหลักอยู่ที่การรักษา ฟื้นฟู และป้องกัน เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย และมีอายุที่ยืนยาว

ทั้งนี้ Aging หรือความแก่ชรานั้น ถือได้ว่าเป็นโรคอย่างหนึ่งที่เราสามารถป้องกันและฟื้นฟูได้ โดยเมื่อไหร่ที่ร่างกายเริ่มมีสัญญาณ เช่น เหนื่อยง่าย ตื่นยาก นอนไม่หลับ อ้วนง่าย มีริ้วรอยต่างๆ คือสัญญาณเตือนว่าโรคความแก่ชราเริ่มมาเยี่ยมเยือนคุณแล้ว ซึ่งก็ควรได้รับการรักษาฟื้นฟูด้วยศาสตร์ชะลอวัยหรือ Anti Aging โดยมีหลักปฏิบัติในการดูแลตัวเองง่ายๆ เรียกว่า 4H ค่ะ จะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้ SI มีบทความดีๆ มาฝากกันค่ะ

1. Healthy Weight คือการรักษาน้ำหนักไม่ให้อ้วนเกินไป เพราะความอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยที่เร่งให้คนแก่เร็วและยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย เนื่องจากเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการเผาผลาญแคลอรี่ในร่างกายก็จะลดลงไปในแต่ละวัน จึงทำให้อ้วนได้ง่าย ควรเลี่ยงการกินแป้งและน้ำตาลขัดขาว

2. Healthy Diet and Life Style Healthy diet หมายถึง การเลือกรับประทานอาหารดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ร่างกายแข็งแรง อย่างผักผลไม้ที่ช่วยเสริมวิตามินและแร่ธาตุ, การดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ, การเลือกอาหารปลอดสารพิษ หลีกเลี่ยงอาหารขยะ ของหวาน หรืออาหารจำพวกแป้ง น้ำตาลและอาหารที่เค็มจัด ส่วนเรื่องไลฟ์สไตล์นั้น หมายถึงการใช้ชีวิตอย่างสมดุล แบ่งเวลาให้กับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

3. Healthy Mind คือการออกกำลังขัดเกลาจิตใจ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วย การออกกำลังสมอง โดยให้ลองหัดทำอะไรที่ไม่เคยทำ เช่น เล่นเกมหรือกีฬาที่ไม่เคยเล่น ลองเปลี่ยนเส้นทางหรือวิธีการเดินทางไปทำงาน เพื่อกระตุ้นและฝึกสมองในส่วนต่างๆ ให้มีการทำงานที่ประสานสัมพันธ์กัน ทั้งในแง่การคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจ และการวางแผนต่างๆ ดีขึ้น ทำให้สมองทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถัดมาคือ การออกกำลังใจ หรือ การทำสมาธิ ปัจจุบันมีผลวิจัยพบว่าคนที่ทำสมาธิเป็นประจำจะมีสมองที่ดีและคิดอะไรได้ฉับไวกว่าอายุจริง ทั้งยังช่วยให้ร่างกายแก่ชราช้าลง เพราะการนั่งสมาธินั้นทำให้การหายใจคงที่ ร่างกายจึงใช้ออกซิเจนลดลง อัตราการเผาผลาญของร่างกายลดลง ทำให้ร่างกายเสื่อมสภาพช้าลงตามไปด้วย และยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย

4. Healthy Skin เมื่ออายุมากขึ้นคอลลาเจนและอีลาสตินที่มีบทบาทสำคัญต่อผิวลดลง ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยร่องลึก เหี่ยวย่น อีกทั้งแสงแดดและมลภาวะยังคอยทำร้ายผิวทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัย ซึ่งวิธีการฟื้นฟูได้ดีและตรงจุดนั้นก็คือ การเลือกใช้ครีมบำรุงที่เน้นในเรื่องของ Anti Aging ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนและอีลาสติน ต่อต้านอนุมูลอิสระและปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยรักษาปัญหาได้ตรงจุด

ที่มา : praew.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


โรคตาแห้ง ป้องกันได้ด้วย 4 วิธี

ฤดูหนาวอาจจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเฝ้าคอย แต่ทุกคนรู้มั๊ยคะว่า ลมหนาวนอกจากจะทำให้ผิวพรรณของเราแห้งแล้ว อาจทำให้เกิดปัญหาตาแห้งได้อีกด้วย เนื่องจากแสงแดดที่ร้อนจัดอาจเป็นสาเหตุหนี่งที่ทำให้เกิดโรคตาแห้ง ซึ่งพบได้ทุกเพศทุกวัย แม้ว่าอาการจะไม่รุนแรงแต่หากทิ้งไว้ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้นขนอาจเกิดการอักเสบได้นะคะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแห้ง
ในช่วงหน้าหนาว อากาศแห้ง และเย็น ทำให้น้ำที่หล่อเลี้ยงลูกตาอยู่ตามธรรมชาติระเหยไปได้ง่ายกว่าปกติ เพราะฉะนั้นไม่ว่าใครก็เจอปัญหานี้ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของกายภาพตาแต่ละคน

เมื่อน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาระเหยอาจไม่มีอาการผิดปกติอะไร หรือมีอาการตั้งแต่ระคายเคืองตา เหมือนมีฝุ่น หรือทราย ค้างอยู่ในตาทั้งที่ไม่มี ถ้ารุนแรงกว่านั้นอาจมีอาการตาแดง แสบตา ซึ่งอาการพวกนี้จะเหมือนคนที่แพ้ยา เซลล์สร้างน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาถูกทำลาย เกิดอาการตาอักเสบตามมา ในกรณีตาแห้งอย่างรุนแรงที่สุดคือ มีอาการอักเสบ ทำให้เคืองตาอย่างรุนแรง ตามัว แต่ไม่ถึงกับทำให้ตาบอด เพราะอากาศในเมืองไทยไม่ได้เย็นมาก

วิธีป้องกันปัญหาตาแห้ง
1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ หากเราดื่มน้ำน้อยเกินไป ก็จะมีน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย น้ำหล่อเลี้ยงลูกตาซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว เมื่อมีการระเหยเพิ่มขึ้นอีก ก็อาจจะทำให้ตาแห้งได้ง่ายยิ่งขึ้น

2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีลมพัดแรง หรือ บริเวณที่มีอากาศแห้งมาก อากาศเย็นมาก หรือมีแสงแดดร้อนจัด

3. กรณีที่รู้สึกเคืองตา ไม่สบายตา ควรกะพริบตา หรือ หลับตาค้างไว้สัก 5 วินาที เพื่อให้น้ำหล่อเลี้ยงลูกตากลับมาฉาบเคลือบลูกตาไว้ เป็นการเพิ่มความชุ่มชิ่นให้ดวงตา โดยปกติ น้ำหล่อเลี้ยงจะอยู่บริเวณเปลือกตาบนด้านใน การกะพริบตาจึงเป็นการปรับสมดุลน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาตามธรรมชาติ แต่ถ้ากะพริบตา หรือ หลับตาแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้หยอดน้ำตาเทียม เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น

4. ใช้น้ำตาเทียมหยอดตา จะช่วยให้เกิดอาการตาแห้งน้อยลง โดยน้ำตาเทียมสามารถหาซื้อใช้เองได้ ไม่มีอันตราย ไม่ต้องกลัวว่าใช้แล้วจะเกิดโรคต่างๆ หรือใช้แล้วจะเกิดการติดยา โดยควรเลือกน้ำตาเทียมที่ไม่มีสารกันเสีย ซึ่งน้ำตาเทียมจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ตา ช่วยให้ผิวตามีสุขภาพดีขึ้น บรรเทาอาการเคืองตาต่างๆ

ตาแห้ง เป็นโรคซึ่งไม่เป็นอันตราย ไม่ถึงกับทำให้ตาบอด แต่จะสร้างความน่ารำคาญ รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของเรา แต่ก็มีหลากหลายวิธีที่ช่วยให้อาการดีขึ้นได้ ฉะนั้นอย่าลืมดูแลรักษาสุขภาพดวงตาให้ชุ่มชื้นด้วยนะคะ หากสงสัยว่าเราเข้าข่ายโรคตาแห้งหรือไม่ สามารถมาพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัย และให้การรักษาต่อไปได้ค่ะ

ที่มา : goodlifeupdate.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


10 ประโยชน์เต็มแม็กซ์ของน้ำมันถั่วดาวอินคา

กระแสเทรนด์สุขภาพยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง Healthy Foods ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเช่นกัน วันนี้ SI มีอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะทำให้คุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นนั่นก็คือ น้ำมันถั่วดาวอินคา อาจเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับหลายคน แต่น้ำมันถั่วดาวอินคาได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 3,000 ปีแล้ว ซึ่งแน่นอนเลยว่าคุณประโยชน์ต้องไม่ธรรมมาดาแน่นอนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันค่ะ

1.เป็นแหล่งของสารแอนตี้ออกซิเด้นท์
น้ำมันถั่วดาวอินคามีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์ที่จะช่วยปกป้องร่างกายจากอนุมูลอิสระ ทำให้ช่วยลดโอกาสที่คุณจะมีปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคต โดยเฉพาะโรคร้ายอย่างมะเร็ง

2.มีสารต้านการอักเสบ
นอกจากน้ำมันถั่วดาวอินคาจะมีสารแอนตี้ออกซิเด้นท์สูงแล้ว มันก็ยังมีสารต้านการอักเสบมากไม่แพ้กันค่ะ โดยเฉพาะสารที่มีชื่อว่า แกมมา-โทโคฟีรอล (Gamma-tocopherol) นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการทานน้ำมันถั่วดาวอินคาถึงช่วยให้ร่างกายอยู่ห่างไกลจากอาการอักเสบได้นั่นเอง

3.เป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า
กรดไขมันโอเมก้า3 เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมาก ซึ่งเราสามารถพบกรดไขมันชนิดนี้ได้ในน้ำมันถั่วดาวอินคาเช่นกัน

4.ช่วยลดน้ำหนัก
สำหรับใครที่กำลังอยู่ในช่วงไดเอท การทานน้ำมันถั่วดาวอินคาอาจทำให้คุณลดน้ำหนักได้ เพราะการทานน้ำมันถั่วดาวอินคาจะช่วยเพิ่มการผลิตเซราโทนิน ซึ่งสามารถช่วยควบคุมความอยากอาหารได้ค่ะ

5.บำรุงสมอง
หนึ่งในสรรพคุณที่น่าสนใจของน้ำมันถั่วดาวอินคาก็คือ มันสามารถช่วยบำรุงสมองของเราให้มีสุขภาพดี เพราะน้ำมันถั่วดาวอินคาขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีคุณสมบัติช่วยปกป้อง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อสมอง ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันถั่วดาวอินคายังมีสารทริปโตเฟน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของเซราโทนินที่มีคุณสมบัติช่วยทำให้คุณรู้สึกสงบ และมีความสุขมากขึ้นค่ะ

6.ดีต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
ประโยชน์ของน้ำมันถั่วดาวอินคาที่มีต่อระบบหัวใจและหลอดถือว่าไม่ธรรมดาเลยค่ะ เพราะมันสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตในร่างกายไปพร้อมกับลดความดันและคอเลสเตอรอลในเวลาเดียวกัน ทั้งนี้มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ในปี ค.ศ. 2011 พบว่า น้ำมันถั่วดาวอินคาอาจช่วยลด LDL ของผู้ป่วย ซึ่งมันถูกจัดว่าเป็นคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดีอย่าง HDL ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจค่ะ

7.ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
กรดไขมันโอเมก้า-3 ที่พบได้ในน้ำมันถั่วดาวอินคานั้นไม่เพียงแต่ดีต่อสมองเท่านั้น แต่มันยังมีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมอีกด้วย หากร่างกายได้รับแคลเซียมเพียงพอ คุณก็จะมีมวลกระดูกมากขึ้น และมีกระดูกที่แข็งแรง ส่งผลให้คุณมีโอกาสเป็นโรคกระดูกพรุนน้อยลงค่ะ

8.ดีสำหรับข้อต่อ
สำหรับคนที่มักมีอาการปวดตามข้อต่อ การทานน้ำมันถั่วดาวอินคาเป็นอาหารเสริมสามารถช่วยให้อาการปวดข้อต่อบรรเทาลง และลดโอกาสในการเกิดโรครูมาตอยด์ ถ้าอยากมีข้อต่อที่แข็งแรง การทานน้ำมันถั่วดาวอินคาสามารถช่วยคุณได้ค่ะ

9.ควบคุมโรคเบาหวาน
ใครที่รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคเบาหวาน เราขอแนะนำให้คุณทานน้ำมันถั่วดาวอินคาค่ะ เพราะมันมีสรรพคุณช่วยควบคุมระดับของอินซูลินและกลูโคสในเลือด นอกจากนี้กรดไขมันในน้ำมันถั่วดาวอินคายังช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ที่มักมีประมาณสูงเมื่อเป็นโรคเบาหวานค่ะ

10.ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น
เห็นด้วยไหมคะว่า การนอนไม่หลับนั้นเป็นอะไรที่ทรมานสุดๆ แต่ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณทานน้ำมันถั่วดาวอินคาค่ะ เพราะมันมีสารทริปโตเฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเพิ่มระดับของเซราโทนิน โดยมันจะทำให้ร่างกายผ่อนคลายมากขึ้น รวมถึงยังช่วยให้การนอนมีคุณภาพ และป้องกันโรคที่เกี่ยวกับการนอนหรือโรคนอนไม่หลับค่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณจะเห็นได้ว่า น้ำมันถั่วดาวอินคาเป็นน้ำมันที่เป็นมิตรต่อสุขภาพของเรามากทีเดียว หากคุณกำลังมองหาอาหารเสริมที่ช่วยทำให้ร่างกายแข็งแรง รับรองว่าการทานน้ำมันถั่วดาวอินคาจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

ที่มา : drhealthbenefits.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


7 ประโยชน์ของทับทิมด้านสุขภาพ

ทับทิม (Pomegranate) เป็นผลไม้มงคลของจีน ทับทิมอุดมไปด้วยสารอาหารและแร่ธาตุมากมายที่จำเป็นต่อร่างกายเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด และ SI จะพาทุกคนไปรู้จักกับประโยชน์ของทับทิมให้มากขึ้นกันค่ะ

ต้านเบาหวาน
ทับทิมเป็นผลไม้ที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานสามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ จึงเป็นเป็นผลไม้ที่ช่วยต้านเบาหวานได้อย่างดี ปริมาณทับทิม 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 83 แคลอรี่ ซึ่งมากกว่าแอปเปิ้ลเพียงเล็กน้อย อีกทั้งยังเป็นผลไม้ที่ไม่มีไขมันอิ่มตัว

ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่าย
ทับทิมมีเส้นใยอาหารในปริมาณ 100 กรัม ให้ไฟเบอร์ถึง 4 กรัม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น และใยอาหารจะช่วยลดการดูดซึมของไขมันและคอเรลสเตอรอลอีกด้วย

ช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต
ทับทิมยังช่วยลดน้ำหนักและควบคุมคอเลสเตอรอล การรับประทานทับทิมเป็นประจำจะช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ทับทิมมีวิตามินซี จึงช่วยป้องกันโรคหวัด หรือโรคภูมิแพ้ และช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้แก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี

บำรุงหัวใจ
การรับประทานทับทิมเป็นประจำช่วยลดไขมันในเลือด ป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ลดการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง

ทับทิมอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย เช่น แอนโทไซยานิน โพลีฟีนอล ฟีนอลิก กรดเอลลาจิก แทนนิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยในการยับยั้งเซลล์มะเร็ง ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้

อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ
ทับทิมเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่ดีมีกลุ่มวิตามินบีรวมที่สำคัญ เช่น วิตามินบี2 หรือไรโบเฟลวิน, วิตามินบี 5 หรือกรดแพนโทเธนิค, วิตามิน B6 หรือไพริดอกซีน, โฟเลต, วิตามินเค และโพแทสเซียม

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


20 ประโยชน์ครบเครื่องเรื่องน้ำมันจมูกข้าว

น้ำมันจมูกข้าว (Rice germ Oil) มีสารสำคัญคือ แกมม่า-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) ทำหน้าที่เพิ่มระดับโคเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ให้กับร่างกาย วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จัก 20 ประโยชน์ของน้ำมันจมูกข้าวกันค่ะ

1. ลดระดับโคเลสเตอรอล
2. ลดและป้องกันโรคความดันโลหิตสูง
3. ช่วยให้สมองและหัวใจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
4. บำรุงเซลล์ประสาทและสมอง ทำให้ความจำดี
5. บรรเทาอาการของผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด
6. เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย
7. ป้องกันความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
8. ชะลอความแก่ ผิวพรรณสดใส
9. กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
10. มีผลในการลดความดันโลหิตและระดับน้ำตาล รวมทั้งการอุดตันของหลอดเลือด
ในหัวใจ สมอง ไตและต่อมลูกหมาก
11. บรรเทาอาการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจนซึ่งมีผลทำให้เกิดปัญหากระดูกและข้อต่อ
12. ช่วยยับยั้งและป้องกันการทำลายเซลล์และเนื้อเยื่อของสารอนุมูลอิสระ
13. ช่วยลดการอุดตันและการแข็งตัวของเกร็ดเลือด รวมทั้งความเข้มข้นของเลือด
ที่เกิดจากการฉายรังสีและการรับประทานยาลดความดัน
14. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตฮอร์โมนประเภทต่าง ๆ จากต่อมใต้สมอง ต่อมไร้ท่อ ต่อมลูกหมาก ต่อมหมวกไต ตับอ่อน รังไข่และอัณฑะ
15. ช่วยในการขยายตัวของเส้นเลือดฝอย ทำให้สายตาดีขึ้นและช่วยป้องกันการเกิดของโรคต้อ
16. ช่วยระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น
17. ช่วยการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติซึ่งมีผลทำให้เกิดอาการผ่อนคลายและนอนหลับสบาย
18. บรรเทาอาการปวดศีรษะเนื่องจากอาการไมเกรน
19. ช่วยฟื้นฟูผิวหนังที่แห้งและเหี่ยวย่น
20. บรรเทาอาการมึนศีรษะเพราะการดื่มสุรา

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


ไลโคปีน (Lycopene) กับ 6 ประโยชน์จัดเต็ม

ไลโคปีน หรือ ไลโคพีน เป็นหนึ่งในราชาของสารอาหารเพียงไม่กี่ชนิดที่มีประโยชน์มากมายเหลือเกิน ทั้งดีต่อสุขภาพ ผิวและผมจะเรียกว่าอาหารเสริมผิวขาว อาหารเสริมบำรุงผิว อาหารเสริมผิวขาวใส นั่นก็คงไม่ผิด เมื่อคุณรู้ถึงสรรพ คุณของมัน ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมีฤทธิ์ในการป้องการโรคหลายชนิด รวมถึงมะเร็งอีกด้วย วันนี้ SI มีบทความดีๆ ที่จะทำให้ทุกคนรู้จักไลโคปีนมากขึ้นจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปดูกันนะคะ

1.ช่วยลดความรุนแรงของรังสี UV ต่อผิวหนัง
การรับประทานสารสกัดจากมะเขือเทศ ไลโคปีน (Lycopene) เป็นประจำจะช่วยลดความรุนแรงของรังสี UVA และ UVB จากแสงแดดที่เข้ามากระทบผิวลงได้ ทำให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น ไม่คล้ำเสียง่าย

2. อาหารเสริมผิวขาวใส
มีผลต่อการทำงานของเม็ดสี (เมลานิน) มันช่วยลดเม็ดสีทำให้ผิวขาวขึ้น ไลโคปีนจึงเป็นอาหารเสริมผิวขาวใส ที่ป้องกันผิวคล้ำที่ต้นเหตุซึ่งก็คือรังสี UV นั่นเอง

3. สารสกัดมะเขือเทศต้านอนุมูลอิสระ
สารสกัดมะเขือเทศไลโคปีน (Lycopene) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังชนิดหนึ่งจากธรรมชาติ พลังในการต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดมะเขือเทศไลโคปีน (Lycopene) นั้น
มีฤทธิ์แรงกว่า เบต้าแคโรทีน 2 เท่า ดังนั้น มันสามารถใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อดีท็อกซ์ร่างกาย ซึ่งก็จะส่งผลต่อผิวหนังที่ขาวสวยใสขึ้น เป็นอาหาร เสริมผิวขาวชั้นดี

4. ช่วยลดอาการผิวหนังอักเสบ ผื่นแดง
ช่วยลดผื่นแดง อาการอักเสบของผิวหนังได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ ผิวแข็งแรง ขึ้น ไม่แพ้ง่าย เรียบเนียบ เปล่งปลัง ทั้งยังช่วยสร้างชั้นผิวใหม่แทนผิวหนังชั้นเดิม ที่เสื่อมด้วย

5. ช่วยต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย
หลังการรับประทานอาหารเสริมมะเขือเทศ ร่างกายจะย่อยและได้รับ ไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งส่วนหนึ่ง สามารถแปลี่ยนไปเป็น วิตามินเอ ที่ช่วยลดริ้วรอยลึกให้ดูตื้นขึ้นและช่วยในการสร้างคอลลาเจน และ เมลาโทนิน ทั้งสองตัวนี้มีส่วนช่วยในสุขภาพและผิวหนังโดยรวมด้วยค่ะ

6. มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งร้ายติดอันดับ 1 ใน 3 ของผู้ชาย อาจจะป้องกันได้หากมีการรับประทานอาหารเสริมมะเขือเทศ ไลโคปีน เป็นประจำ สำหรับคนที่ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ไปแล้วและต้องผ่าตัดเป็นนำเนื้อมะเร็งออกไปการรับประทานสารสกัดจากมะเขือเทศ ไลโคปีนนั้นเป็นประจำ
2-3 สัปดาห์ก่อนผ่านตัด สามารถช่วยลด ขนาดก้อนเนื้อ รวมถึงทุเลาและลดการลุกลามของเนื้อร้ายได้ด้วยค่ะ

ที่มา : tvdirect.tv

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


น้ำมันมะพร้าวปลุกไขมันดี (HDL)

HDL มาจากคำว่า High Density Lipoprotein ( ไขมันที่ดี ) เป็นไขมันที่มีความหนาแน่นสูง HDL ดีกับหลอดเลือดแดงเนื่องจาก ช่วยป้องกันไม่ให้ คอเลสเตอรอล, ไตรกลีเซอไรด์, และ LDL สะสมในหลอดเลือดแดง หากขาด HDL ในเลือด ก็จะทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดได้

COCONUT OIL (MCT OIL) น้ำมันมะพร้าว ที่ผ่านกระบวนการสกัดด้วย เทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้ได้สารสำคัญของน้ำมันที่ดี นั่นคือ สารสำคัญที่มีคาร์บอน จำนวน 8-10 อะตอม ซึ่งโมเลกุลของสารสำคัญดังกล่าวนั้น เหมาะสมกับร่างกาย ของมนุษย์ สามารถเพิ่มพลังงานให้ทั้งสมองและร่างกายได้ทันทีโดยไม่เกิดการสะสม และผ่านกระบวนการย่อย จึงช่วยเพิ่มพลังงานให้กับสมองเหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสมองหนักๆ และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับ ร่างกายทันที เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อย จึงนำพลังงานที่ได้ไปใช้งานได้อย่าง ทันที เหมาะสำหรับบุคคลที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ โมเลกุลของ Fatty acid ดังกล่าว ยังจัดเป็นไขมันชนิดดี จึงช่วยบำรุงหัวใจ กล่าวคือ เมือร่างกายมีไขมันชนิดดี (HDL) มากขึ้นร่างกายจะสามารถปรับสมดุลทำให้ไขมันชนิดเลว (LDL) ลดลง

ที่มา : thaihealth.or.th

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


ฟักทองกับ 10 กับประโยชน์ดี๊ดีด้านสุขภาพ

ฟักทอง.. ผักมากด้วยคุณประโยชน์อย่างที่ใครหลายคนไม่คาดคิด นอกจากประโยชน์ด้านความงามที่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่ค่อนข้างสูง จึงช่วยผลัด เซลล์ผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใส และมีแร่ธาตุช่วยในการผลิตคอลลาเจนให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยลดไขมันส่วนเกินจึงช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน และช่วยลด ปัญหาสิวอีกด้วย แล้วทุกคนทราบมั๊ยคะว่าประโยชน์ด้านสุขภาพจากฟักทองนั้นมีอะไรบ้าง สำหรับใครที่ยังไม่รู้ เราอย่ารอช้า ตาม SI มาดูกันค่ะ

1.เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ในฟักทองไม่ได้มีเพียงแค่วิตามินเอแต่เพียงเท่านั้น หากยังมีวิตามินซีอยู่มากและวิตามินซีก็จะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้แก่ร่างกาย โดยเฉพาะการป้องกันหวัด ใครไม่อยากเป็นหวัดง่ายๆ แนะนำให้หมั่นกินฟักทองเป็นประจำค่ะ

2.ช่วยบำรุงสายตา
เพราะฟักทองนั้นมีวิตามินเอสูงมาก โดยฟักทองบด 1 ถ้วยจะให้วิตามินเอสูงมากถึง 200% จากปริมาณที่แนะนำใน 1 วัน และเราก็ทราบกันดีแล้วใช่มั้ยล่ะว่าวิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นแม้แต่ในที่มืดชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ มันยังช่วยลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ในลูกตาได้อีกด้วย

3.ลดน้ำหนักได้ผล
อาหารลดน้ำหนักนั้นมีมากมายและฟักทองก็คือ หนึ่งในอาหารที่สาวๆ สามารถกินยามลดน้ำหนักได้ผล เพราะฟักทองมีไฟเบอร์สูงมากถึง 3 กรัมต่อ 1 ถ้วย และยังให้แคลอรี่แค่ 49 แคลอรี่เท่านั้น กินแล้วจึงรู้สึกอิ่มท้องนานและช่วยลดอาการหิวโหยระหว่างมื้อได้ดีทีเดียว

4.ดูแลสุขภาพหัวใจ
งานวิจัยได้ชี้แจงอย่างแน่ชัดแล้วว่า สารจากธรรมชาติที่ชื่อว่า ‘ไฟโตสเตอรอล’ (Phytosterols) ที่พบจากเมล็ดธัญพืชและถั่วเปลือกแข็งจะมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ได้ ดังนั้น มันจึงช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งแน่นอนว่าเมล็ดฟักทองก็คือ หนึ่งในเมล็ดธัญพืชที่คนรักสุขภาพไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง

5.ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
ในฟักทองยังพบว่ามีสารเบต้าแคโรทีนสูงซึ่งนอกจากจะช่วยด้านการบำรุงสายตาแล้ว มันยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้ดีอีกด้วย โดยมีผลการวิจัยบอกไว้ว่า สารดังกล่าวจะสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุในการเกิดโรคมะเร็ง และกรดโปรไพโอนิคจากฟักทองก็ยังช่วยให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง ทั้งนี้ ในผู้ชายการกินฟักทองเป็นประจำจะช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก ต่อมลูกหมากโตและช่วยป้องกันการเป็นหมันได้

6.บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง
อนุมูลอิสระเป็นตัวการทำลายเซลล์ให้เสื่อมสภาพและกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด เช่นเดียวกันกับเซลล์ผิว หากมันถูกทำลายไปแล้ว สภาพผิวพรรณก็ย่อมหม่นหมอง ไม่เปล่งปลั่งสดใสและยังเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่าย แต่หากสาวๆ หมั่นกินฟักทองซึ่งมีสารแคโรทีนอยด์ก็จะช่วยลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ลงได้ ดังนั้น มันจึงช่วยบำรุงผิวพรรณ ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล

7.ป้องกันเบาหวานและควบคุมความดันโลหิต
การกินฟักทองหลายคนมักนิยมกินแต่เนื้อเท่านั้นและเปลือกของมันก็มักจะถูกมองข้ามไปเสียสนิท ซึ่งคุณอาจจะไม่ทันรู้ว่าเปลือกของฟักทองนี่แหละมีฤทธิ์ทางยามากมายซ่อนอยู่ โดยเฉพาะฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นการหลั่งของอินซูลินภายในร่างกาย โดยจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด การกินฟักทองทั้งเปลือกร่วมด้วยเป็นประจำจึงสามารถป้องกันเบาหวานและควบคุมความดันโลหิตได้ค่ะ

8.บำบัดความเครียด
เนื่องจากในเมล็ดฟักทองมีกรดอะมิโนที่ชื่อ “ทริปโตฟาน” ซึ่งเป็นกรดที่พบในกล้วยและนมด้วยเช่นกัน โดยกรดดังกล่าวจะช่วยให้เรานอนหลับสบาย อีกทั้งทริปโตฟานยังเข้าไปสร้างสารเซโรโทนีนซึ่งเป็นสารที่ช่วยควบคุมอารมณ์ของเราให้นิ่งสงบ ดังนั้น หากคุณเครียดๆ อยู่ล่ะก็ แนะนำให้กินเมล็ดฟักทองเล่นสัก 1 กำมือ รับรองมันจะช่วยผ่อนคลายความเครียดและทำให้อารมณ์ดีขึ้นไม่มากก็น้อยแน่นอน

9.ป้องกันการเกิดนิ่ว
เมล็ดฟักทองเม็ดเล็กๆ ที่หลายคนอาจเคยมองข้าม ไม่เพียงจะมีแป้ง โปรตีน วิตามินและฟอสฟอรัสแต่เพียงเท่านั้นนะคะ แต่ยังมีสารที่ชื่อว่า “คิวเคอร์บิติน” ซึ่งสารนี้เป็นสารที่มีฤทธิ์ช่วยฆ่าพยาธิตัวตืดได้ และยังทำหน้าที่ช่วยขับปัสสาวะ จึงสามารถป้องกันการเกิดโรคนิ่วและโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะได้นั่นเอง

10.ฟื้นพลังหลังออกกำลังกาย
ใครที่ชอบออกกำลังกายอย่างหนัก ร่างกายก็มักอ่อนเพลียเป็นธรรมดาและแน่นอนค่ะว่าเรามักจะต้องกินอาหารเสริมพลังเข้าไป หลายคนนิยมหันมากินกล้วยเติมพลัง ทว่าหากใครที่ไม่ชอบกล้วย คุณสามารถกินฟักทองนึ่งแทนได้นะคะ เพราะฟักทองนั้นมีโพแทสเซียมสูงถึง 564 มิลลิกรัม ซึ่งมากกว่ากล้วยที่มีแค่ 422 มิลลิกรัมเท่านั้น สารโพแทสเซียมจะเข้าบำรุงและฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักได้ดี อีกทั้งยังดูแลการทำงานของกล้ามเนื้อให้กลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเดิมได้ด้วย

ที่มา : teambeyondsport.com/

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


บำรุงร่างกาย หัวใจ และสมอง ด้วย 3 สารต้านอนุมูลอิสระ

1. Coconut Oil (MCT Oil) น้ำมันมะพร้าว ที่ผ่านกระบวนการสกัดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงทำให้ได้สารสำคัญของน้ำมันที่ดี นั่นคือ สารสำคัญที่มีคาร์บอนจำนวน 8-10 อะตอม ซึ่งโมเลกุลของสารสำคัญดังกล่าวนั้นเหมาะสมกับร่างกายของมนุษย์ สามารถเพิ่มพลังงานให้ทั้งสมองและร่างกายได้ทันทีโดยไม่เกิดการสะสมและผ่านกระบวนการย่อย จึงช่วยเพิ่มพลังงานให้กับสมองเหมาะกับนักเรียนนักศึกษาหรือคนทำงาน ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสมองหนักๆ และยังช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายทันที เพราะไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยจึงนำพลังงานที่ได้ไปใช้งานได้อย่างทันที เหมาะสำหรับบุคคลที่ออกกำลังกาย นอกจากนี้ โมเลกุลของ Fatty acid ดังกล่าวยังจัดเป็นไขมันชนิดดี จึงช่วยบำรุงหัวใจกล่าวคือ เมือร่างกายมีไขมันชนิดดี (HDL) มากขึ้นร่างกายจะสามารถปรับสมดุลทำให้ไขมันชนิดเลว(LDL) ลดลง

2. Astaxanthin Oil มีฤทธิ์ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ช่วยป้องกันการทำลายเซลล์และกระบวนการออกซิเดชั่นที่มีผลทำให้เกิดริ้วรอยและการเสื่อมของเซลล์ก่อนวัยอันควร จึงเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายที่นำมาใช้เป็นอาหารเสริมในการดูแลสุขภาพของดวงตาและหัวใจลดการอักเสบทั่วร่างกาย และช่วยในเรื่องของผิวพรรณ

3. Vitamin E (Tocopherol) ช่วยทำให้แลดูอ่อนกว่าวัย โดยชะลอ
กระบวนการเสื่อมสภาพของเซลล์ ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิด
ไม่ดี ช่วยนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายเพื่อเพิ่มสมรรถภาพความทนทานช่วยปกป้องปอดจากมลพิษทางอากาศ โดยทำงานร่วมกับวิตามินเอ ป้องกันโรคมะเร็งได้หลายชนิด เพิ่ประสิทธิภาพในการต่อสู้กับโรคให้เม็ดเลือดขาวชนิดทีเซลล์

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


รู้ทัน “อาการบวมน้ำ” ปัญหาใหญ่ของสาวๆ

ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้หลายๆ คนคงถือโอกาสชิม ช็อป กันอย่างเมามันส์ แล้วจู่ๆ ก็คิดว่าตัวเองอ้วนขึ้น ไม่ว่าจะตัวเลขบนตาชั่งเพิ่มขึ้นมั๊ย กางเกงคับแน่นไปหรือเปล่า แต่สาวๆ รู้มั๊ยคะว่านั่นอาจไม่ได้หมายความว่าคุณอ้วนขึ้น แต่มันอาจเป็นเพราะคุณกำลัง บวมน้ำ อยู่ก็เป็นได้นะคะ โดยอาการบวมน้ำที่ว่านี้ มักเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุและจะแก้ปัญหาอาการบวมน้ำได้อย่างไร ไปดูกันค่ะ

สาเหตุของอาการอ้วนแบบบวมน้ำ
อาการอ้วนแบบบวมน้ำโดยหลักๆ มักเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหารเค็มมากจนเกินไป เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมสูง ก็จะกักเก็บน้ำไว้โดยอัตโนมัติเพื่อเอาไว้ขับโซเดียมส่วนเกินออกทางไต นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สาวๆ รู้สึกอึดอัด หรือว่าตัวบวมขึ้นได้
สาวๆ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ถ้าหากเราดื่มน้ำเยอะเกินกว่าที่ร่างกายต้องการ ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการอ้วนแบบบวมน้ำได้เช่นกัน เพราะความสามารถของไตในการขับปัสสาวะนั้นมีขีดจำกัด น้ำส่วนเกินในร่างกายที่ขับออกไปไม่หมดจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำนั่นเองล่ะค่ะ
เคยมั้ยคะ กินน้อย แต่ดันแอบมีพุงยื่นออกมา เนื่องจากการเคี้ยวอาหารเร็วเกินไป ทำให้บางทีเราอาจเคี้ยวไม่ละเอียด และเกิดลมในกระเพาะ จนท้องป่องออกมาได้อย่างที่เห็น
พอใกล้เข้าสู้ช่วงประจำเดือน ร่างกายของสาวๆ ทุกคน จะมีอาการแปลกๆ ฟ้องหลายอย่าง อาการบวมน้ำก็เป็นหนึ่งในสัญญาณเหล่านั้นเช่นกันค่ะ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนแปรปรวนผิดปกติ ทำให้เกิดอาการท้องอืดและตัวบวมน้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วิธีลดอาการบวมน้ำ บวมน้ำ ลดความอ้วน

วิธีช่วยลดอาการอ้วนบวมน้ำ
–  หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีแก๊สสูง จำพวกแป้งขัดสี เนื้อสัตว์ และไขมัน เพราะเป็นอาหารประเภทย่อยยาก
–  ไม่ดื่มน้ำรวดเดียวทีละมากๆ เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับน้ำมากเกินไป ทั้งยังไม่ได้ช่วยให้ร่างกายขับของเสียออกไปมากขึ้นด้วย แต่ควรเน้นดื่มบ่อยครั้งตลอดวันแทน
–  ลดการทานเค็ม เพราะจะได้ไม่เป็นการเพิ่มโซเดียมให้กับร่างกาย แต่ทั้งนี้ โซเดียมก็ยังคงเป็นแร่ธาตุที่ยังจำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งควรได้รับในปริมาณไม่เกิน 1,500-2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
–  ทานแมกนีเซียม เพราะมีส่วนช่วยลดอาการท้องอืดและอาหารไม่ย่อย พบได้ในอาหารประเภทปลา กล้วย เมล็ดธัญพืช และผักสีเขียวต่างๆ

เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สาวๆ ก็อย่าลืมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเกิดความรู้สึกว่าอ้วนขึ้น จนใส่เสื้อผ้าชุดไหนก็ไม่สวย ถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่โดนกันนะคะ

ที่มา : goodlifeupdate.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน