ปลุกกระแสสเต็มเซลล์เทรนด์น่าจับตาในธุรกิจความงาม

การใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อพัฒนาข้าวไทยให้มีมูลค่ามากขึ้น  ล่าสุดมีการผลิตเครื่องสำอางจากสเต็มเซลล์ข้าว (สารสกัดจากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อข้าว) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความแข็งแรง มีฤทธิ์ต้านการเกิดออกซิเดชั่น ช่วยชะลอริ้วรอยที่เกิดจากอนุมูลอิสระ (Free-radical) รวมถึงช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว และได้นำมาเป็นสารตั้งต้นในการผลิตเครื่องสำอางคุณภาพสูง

ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางในปัจจุบันที่ใช้สเต็มเชลล์จากพืชหรือสัตว์เป็นส่วนประกอบและอ้างอิงสรรพคุณหรือฤทธิ์ในการชะลอความชราและลดริ้วรอยนั้น ในประเทศไทยยังไม่มีรายงานการศึกษาวิจัยถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ สารสกัดสเต็มเซลล์ที่ใช้ยังต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งมีราคาจำหน่ายสูง ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากสเต็มเซลล์มีราคาสูงตามไปด้วย

“สารสกัดจากสเต็มเซลล์จากข้าวไทย” ได้รับการพัฒนาคิดค้นโดยนักวิจัยไทย  ซึ่งได้เพาะเลี้ยงสเต็มเชลล์โดยใช้ข้าวไทยเป็นวัตถุดิบ โดยการใช้เทคโนโลยีหนี่ยวนำให้เกิดสเต็มเซลล์ และศึกษาประสิทธิภาพของสารสเต็มเซลล์จากข้าวซึ่งพบว่ามีฤทธิ์ชะลอความชรา คุณสมบัติการต้านอนุมูลอิสระ รวมทั้งฤทธิ์ต้านเอนไซม์ไทโรซิเนสเทียบเทียบเท่าหรือเหนือกว่าสารสกัดสเต็มเซลล์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์สารออกฤทธิ์ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางได้ ซึ่งนับเป็นการต่อยอดและเพิ่มมูลค่าให้กับข้าวไทยได้อย่างดีเยี่ยม โดยสารสกัดออกฤทธิ์ในการลดริ้วรอย อีกทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนัง และทำให้ผิวดูสว่างสดใส มีประสิทธิภาพดีและมีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญสามารถผลิตได้ในประเทศ ซึ่งทำให้ราคาวัตถุดิบถูกลง ส่งผลให้สินค้ามีต้นทุนต่ำ สามารถตั้งราคาและทำการตลาดได้ง่ายกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ

ธุรกิจความงาม ซึ่งมีมูลค่ากว่าสามแสนล้านบาท ยังพัฒนาไปได้อีกยาวไกล แต่ที่ผ่านมาธุรกิจนี้ในเมืองไทยส่วนใหญ่ซื้อวัตถุดิบจากต่างประเทศเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเราจะเอาสมุนไพรมาขย้ำๆ แล้วใส่ในเครื่องสำอางขายในตลาดโลกได้หรือเปล่า นี่คือ กับดักของกลุ่มโอท็อป ถ้าอย่างนั้นชุมชนจะมีโอกาสนำนวัตกรรมที่เราคุยตรงนี้มาใช้ประโยชน์ได้ไหม ทั้งๆ ที่ไทยเป็นฐานการผลิตสินค้าไปต่างประเทศ แต่ไม่มีแบรนด์ของประเทศที่ชาวต่างชาติรู้จัก

เขามองเทรนด์ของธุรกิจเครื่องสำอางว่า ตอนนี้ทางยุโรปกำลังตามเอเชีย ต่อไปครีมบำรุงผิวต่างๆ อาจไม่ได้ขายเป็นกระบุก ผู้ผลิตสินค้าอาจมีการส่งวัตถุดิบให้ไปลูกค้าผสมที่บ้านเลย เพื่อใช้ให้เหมาะกับสภาพผิว และฤดูกาลที่แตกต่าง

“ตลาดแบบเจาะกลุ่มผู้บริโภคโดยเฉพาะ เทรนด์นี้มาแน่ สังเกตไหมมีการสั่งตัดรองเท้าเฉพาะคนๆ นั้น อะไรก็ตามที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ได้ นั่นคือ ใช่ อย่างน้ำมันรำข้าว เรากินแล้วดีต่อร่างกาย ก็ต้องดีต่อผิว โจทย์ของน้ำมันรำข้าว จะเป็นโจทย์หนึ่งในเรื่องวัตถุดิบตัวใหม่ในอนาคตที่จะนำมาใช้กับผลิตสินค้าได้หลากหลาย

ที่มา : bangkokbiznews.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


14 สมุนไพรตัวท็อป รู้ไว้ก่อนไตพัง

ไต  เป็นอวัยวะที่มีรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่วแดง ซึ่งการทำงานของไตมีความสำคัญต่อสุขภาพในภาพรวม ทั้งนี้ไตมีหน้าที่ทำให้เลือดสะอาด ควบคุมปริมาณน้ำภายนอกเซลล์ ระดับอิเล็กทรอไลต์ และค่า PH ภายในร่างกาย อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญในการหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่ควบคุมการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และควบคุมความดันโลหิต ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรนำนิสัยที่ดีต่อสุขภาพมาปรับใช้ เพื่อให้ไตทำงานได้ราบรื่น และป้องกันไม่ให้โรคร้ายมาถามหา วันนี้ SI จะพาทุกคนไปทำความรู้จักสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงไตให้แข็งแรงสมบูรณ์และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพกันนะคะ

1. กระวาน แพทย์แผนไทยใช้กระวานเป็นยาขับลม ช่วยกระจายเลือดและขับพิษออกจากกระแสเลือด ซึ่งสามารถนำทุกส่วนของกระวานมาต้มดื่มจะช่วยบำรุงไตทางอ้อมเพราะสามารถลดปริมาณของเสียในเลือดทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักมาก

2. กระเจี๊ยบแดง ส่วนที่นำมาใช้เป็นสมุนไพรฟอกเลือดบำรุงไตให้เน้นไปที่ดอกสีแดงสด กระเจี๊ยบแดงมีสรรพคุณทางสมุนไพรมาก ชงกับน้ำร้อนดื่มแก้กระหาย ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ขับปัสสาวะ บำรุงเลือด แก้โรคนิ่วในไต แก้นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ

3. งาขาว งาขาวบดต้มกับน้ำ ดื่มเป็นยาบำรุงร่างกาย วิธีง่ายๆใช้งาขาวหนึ่งหยิบมือ บดในครกจนแตกละเอียด ต้มกับน้ำ ผู้ป่วยโรคไตควรดื่มน้ำงาขาวบ่อยๆ จะช่วยลดภาระการทำงานของไต เพราะช่วยขับเลือดเสีย ทำให้ไตทำงานน้อยลง ส่งผลให้ไตของผู้ป่วยชะลอการเสื่อมได้ยิ่งดี

4. ใบบัวบก ใบบัวบกนับว่ามีประโยชน์โดยตรงสำหรับผู้ที่เป็นโรคไต เพราะมีสารสำคัญหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับระบบโลหิตโดยตรง อาทิเช่น ไตรเตอพีนอยด์(อะซิเอติโคไซ) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างคอลลาเจน เพิ่มความแข็งแรงของผนังหลอดเลือด ทำให้ผนังหลอดเลือดมีความหยืดหยุ่นเพื่มมากขึ้น ช่วยลดความดันโลหิตสูง และป้องกันเส้นเลือดฝอยแตกได้เป็นอย่างดี

5. เห็ดหลินจือ เห็ดหลินจือเป็นที่คาดหวังกันไว้ว่าจะสามารถบรรเทาหรือรักษาโรคไตเรื้อรังได้ อาจารย์คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาฯ ได้นำสรรพคุณของเห็ดหลินจือมาทดลองรักษาผู้ป่วยโรคไต ปรากฏว่าช่วยลดปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะได้ และช่วยชะลออาการไตเสื่อมได้ดี

6. ขิง สำหรับผู้ที่เป็นโรคไตดื่มน้ำขิงบ่อยๆจะดี ดื่มเพื่อบำรุงไต เพราะช่วยลดการอักเสบภายใน ตลอดจนเป็นยาขับปัสสาวะอ่อนๆ ช่วยขับปัสสาวะที่คั่งค้างอยู่ภายใน สลายนิ่วและสิ่งอุดตัน ช่วยลดไขมันในหลอดเลือด ตลอดจนช่วยกำจัดพิษที่ตกค้าง

7. เก๋ากี้ฉ่าย สำหรับผู้ป่วยโรคไต ชาเก๋ากี้ดื่มบ่อยๆจะช่วยลดภาระให้แก่ไต ไม่ว่าจะเป็นการลดไขมันในกระแสเลือด ช่วยดูดซึมน้ำตาล ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยชะลอการเสื่อมของไต

8. ผลหม่อนหรือเรียกว่าลูกหม่อน กินสดทั้งผล มีสารประกอบของวิตามินซี ไบโอฟลาโวนอยด์สูงมาก บำรุงไต แก้อาการอักเสบของเนื้อไต(ลูกหม่อนหาทานยากเสียหน่อย แต่บำรุงไตดีมาก)

9. เกสรหรือไหมข้าวโพดและซังข้าวโพด เอาตากแห้งแล้วต้มน้ำดื่มแทนน้ำ แก้ไตอักเสบ ขับปัสสาวะ แก้บวมน้ำ คนที่เป็นโรคเบาหวานร่วมด้วย ทานสูตรนี้ยิ่งดี รสไม่หวาน ข้าวโพดหาซื้อมาทำเองได้ง่าย

10. ใบข่อย ใช้ต้มน้ำแบบใบชาดื่มแทนน้ำ ช่วยขับปัสสาวะ ลดภาระของไต

11. เตย ใบ ต้น และรากหรือเหง้าของเตย ต้มดื่มแทนน้ำ แก้กระษัย ขับปัสสาวะ

12. หญ้าใต้ใบ ทั้งต้น ต้มกับน้ำจนเดือด เคี่ยวนาน 15 นาที กระตุ้นสมรรถภาพไต

13. ต้นหญ้าหนวดแมว หั่นตากแห้งชงกินแบบน้ำชาต่างน้ำ แก้กระษัย ทำให้ไตมีกำลัง ขับปัสสาวะ แก้นิ่ว สำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจต้องระมัดระวัง ถ้าใช้หญ้าหนวดแมวแล้วอาจทำให้หัวใจสั่น เพราะหญ้าหนวดแมวมีฤทธิ์บีบหัวใจ

14. ถั่วเหลือง นมถั่วเหลือง หรือเต้าหู้ จะมีสารจากถั่วเหลืองที่ชื่อไอโซฟลาโวน หรือเจนีสเตอิน บำรุงไต

ที่มา : แพทย์แผนไทย

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


3 สิ่งต้องทำ! ถ้าไม่อยากหน้าแก่ก่อนวัยอันควร

ธรรมชาติสร้างมนุษย์มาพร้อมกับความสวยงาม โดยเฉพาะผู้หญิง เรื่องความสวยความงามจึงเป็นเรื่องคู่กัน แม้อายุยังน้อย ริ้วรอย ร่องลึก หรือความหมองคล้ำยังไม่ค่อยมีมาให้เห็น แต่ก็ละเลยไม่ได้เช่นกัน วันนี้ SI มีเคล็ดไม่ลับฉบับสาววัย 20-30 มาฝากกันค่ะ บำรุงก่อนได้เปรียบนะคะ

1. เลือกเครื่องสำอางให้เป็น
– Baby Sun Block กันแดดควรปกป้องผิวหนังจากรังสีของดวงอาทิตย์ SPF 25-30
– MAKE UP รองพื้น ควรใช้ Blemish Balm หรือ BB เพราะจะบางเบากว่า Foundation แป้งฝุ่น ใช้ในการเริ่มการแต่งหน้า เพื่อที่จะเซตครีม เซตบีบี ให้เข้าที่ นอกจากนี้ ควรมีแป้งพัพติดตัวไว้สำหรับเติมระหว่างวัน
– การล้าง Make Up ควรใช้ Cleansing Milk หรือ Cleansing Oil แล้ว ล้างออกด้วยโฟมอ่อน หรือเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนเพื่อล้างเมคอัพออกให้หมด

2. บำรุงให้ถูกวิธี
ในช่วงวัยนี้ Natural Moisturizer Factor ยังสมบูรณ์ จึงไม่ต้องบำรุงมาก แนะนำว่าควรดื่มน้ำมาก ๆ ในแต่ละวัน เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น การเลือก บำรุงผิวควรเลือกสารที่ให้ความชุ่มชื่นคือ NaPCA เป็นหลัก ซึ่งจะลดการระคายเคือง ได้เป็นอย่างดี ไม่ก่อให้เกิดสิว และอาจต้องเสริมไวตามินต่างๆ ในการบำรุงที่มีสารช่วยลดการตึงของผิว สิ่งที่ต้องมองเพิ่มเติมคือ ควรมี Hyaluronic อยู่ในส่วนผสม เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื่นอุ้มน้ำเปล่งปลั่งตามธรรมชาติ นอกจากนี้ควรมีสเปรย์ฉีดผิวหน้าเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ทำให้เครื่องสำอางติดทนนาน สามารถฉีดระหว่างวันได้เพื่อเติมความสดชื่น ให้หน้ากระชับ

3. สิ่งที่ควรระวัง
ช่วงวัยนี้เริ่มมีการแต่งหน้าเพิ่มมากขึ้น ควรทดสอบเครื่องสำอางก่อนใช้ และควรทำความสะอาดอุปกรณ์แต่งหน้าของเราอยู่เสมอ เพื่อป้องกันแบคทีเรียและฝุ่นละออง
Tip : การเลือกเครื่องสำอางที่ถูกต้องให้ดูที่ฉลาก ให้เลือกคำว่า Non Comedogenic, Sensitive Skin, Demartology Test การทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง Opthamologist Test การทดสอบโดยแพทย์ทางตา Lanolin Free ปราศจากสารลาโนลิน, Alcohol Free ปราศจากสารแอลกอฮอล์, Fragrance Free ปราศจากกลิ่นหอม, และอย่างสุดท้าย Comedone Free ไม่ก่อให้เกิดขึ้นสิว

ที่มา: paolophahol.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


12 คุณประโยชน์จาก “โสม” ที่ไม่ได้มีดีแค่กับคนชรา

โสม สมุนไพรบำรุงร่างกายชั้นดีที่ได้ขนานนามว่า “ราชาแห่งสมุนไพร” เพราะเพียงปลายรากเล็กๆ แต่กลับมากด้วยคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงสมอง บำรุงเลือด เพิ่มพลัง เพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้ชาย และอีกมากมายตามที่เลื่องลือกันมา แต่ด้วยค่านิยมผิดๆ ที่คิดว่าโสมเอาไว้บำรุงคนแก่เท่านั้น วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จัก 12 คุณประโยชน์ของโสมกันนะคะ

โสมช่วยลดการปวดประจำเดือน
ประโยชน์ในเรื่องนี้เอาใจสาวๆ ไปได้เลย เพราะผู้หญิงที่ต้องเจอภาวะปวดประจำเดือนทุกเดือนนี้มันช่างทรมานจริงๆ โดยมีนักวิจัยคิดค้นและยืนยันมาแล้วว่า โสมมีฤทธิ์ช่วยปรับฮอร์โมนในผู้หญิงช่วยลดอาการปวดประจำเดือน และยังช่วยปรับฮอร์โมนสำหรับผู้หญิงที่กำลังเข้าวัยทองอีกด้วยช่วยลดอาการผมร่วง ป้องกันภาวะผมบางและหัวล้าน


โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือด ทำให้ร่างการสร้างเซลล์ PAPILLA ได้มากขึ้น ซึ่งเซลล์ PAPILLA เป็นเซลล์ที่ช่วยให้อายุของเส้นผมอยู่ได้นานขึ้น ไม่หลุดร่วงง่าย และยังช่วยให้ผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง ป้องกันการเกิดภาวะผมบาง ศีรษะล้าน เสียบุคลิกภาพ


ช่วยบำรุงผิว ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
เนื่องจากโสมมีสาร Phytonutrients และสาร Anti-Oxidants จึงช่วยต่อต้านสารอนุมูลอิสระต่างๆ ที่จะมาทำลายผิวให้เกิดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยดูแลคอลลาเจนในผิวชั้นกลางทำให้ผิวหน้าดูกระชับเต่งตึง แถมยังช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดออกไป พร้อมเผยผิวใหม่ที่สดใสกว่าเดิมออกมา


ช่วยลดปัญหารอบดวงตา
สาวๆ คนไหนกำลังเจอปัญหานี้ ใช้อายเจลหมดไปหลายกระปุกก็ยังไม่ช่วย ต้องมาลองใช้โสมกันดู เพราะโสมมีสาร Saponin ที่ช่วยกระตุ้นเซลล์ใต้ผิวหนังรอบดวงตาให้แข็งแรงขึ้น จึงสามารถช่วยแก้ปัญหารอยดำหมองคล้ำใต้ดวงตา ลดอาการบวมของถุงใต้ตา ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวรอบดวงตาให้ดูอ่อนเยาว์ขึ้นกว่าเดิม


ยับยั้งเซลล์มะเร็งรังไข่, มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งปอด
Ginsenosides ในโสมมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งในรังไข่ เซลล์มะเร็งต่อมลูกหมาก และเซลล์มะเร็งปอด ได้เป็นอย่างดี จากการวิจัยของนักวิทยาสาสตร์ค้นพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งทั้ง 3 กลุ่มนี้ที่ได้รับประทานโสมอย่างต่อเนื่อง จะสามารถประคองอาการของโรค และมีชีวิตอยู่ได้ยาวนานกว่า กลุ่มผู้ป่วยที่ไม่ได้รับประทานโสม


ช่วยรักษาและป้องกัน โรคเบาหวาน
โสมมีส่วนช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเซลล์ที่ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสในร่างกายไปใช้งานได้มากขึ้น อีกทั้งไปกระตุ้นให้ตับอ่อนสามารถเพิ่มการหลั่งของอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ช่วยรักษาโรคและป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี


ช่วยในการลดน้ำหนัก
โสมเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนักและไขมันได้ โดยการที่โสมช่วยปรับสภาพให้ร่างกายดูดซึมคาร์โบไฮเดรตได้ช้าลง และกระตุ้นให้ร่างกายนำน้ำตาลไปใช้งานได้มากขึ้น ทั้งยังช่วยลดการสะสมไขมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเร่งกระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้ทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย


ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย
อย่างที่เราคุ้นหูกันดีว่าโสมเป็นยาโดปชั้นดีของเหล่าสุภาพบุรุษ เพราะโสมสามารถไปเพิ่มปริมาณไนตริกออกไซในร่างกาย ทำให้สามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายได้เป็นอย่างดี


ลดอาการความดันโลหิตสูงและต่ำ
โสมมีส่วนช่วยบำรุงเลือดและปรับสมดุลต่างๆ ในร่างกาย ร่วมถึงปรับการหมุนเวียนของเลือดในร่างกายด้วย เพียงมีข้อพึงระวังในการใช้โสมของผู้ป่วยความดันโลหิตอยู่นิดนึงว่า ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงควรรับประทานโสมขาว และผู้ป่วยความดันโลหิตต่ำควรรับประทานโสมแดง เพราะโสมทั้ง 2 ชนิดนี้ออกฤทธิ์แตกต่างกัน


ลดความเครียด แก้ปัญหาอาการนอนไม่หลับ
Ginsenosides ในโสมจะช่วยทำให้ระบบประสาทส่วนกลางตื่นตัวทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งช่วยคลายความปวดเมื่อย ซึ่งจะช่วยทำให้หลับสนิท และตื่นมาไม่งัวเงีย กระปรี้กระเปร่า อีกทั้งโสมจะช่วยต้านความเครียด เพราะมีสาร Adaptogens จะช่วยให้ร่างกายให้ผ่อนคลาย ปรับสภาวะจิตใจให้คงที่ ลดภาวะโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย


ช่วยบำรุงสมองและระบบความจำ
ในส่วนข้อนี้เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องทำงานใช้ความคิดทั้งวัน หรือเด็กนักเรียน นักศึกษาที่กำลังเตรียมตัวสอบ เพราะโสมมี Ginsenosides ที่จะช่วยเสริมการทำงานของสารสื่อประสาท ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างเซลล์ประสาทของระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ปรับกระบวนการคิดและวิเคราะห์ข้อมูลให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น


ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ลดอาการภูมิแพ้ต่างๆ
โสมช่วยปรับสภาพร่างกายให้อยู่ในภาวะสมดุล จึงทำให้สามารถป้องการการติดเชื้อต่างๆ ได้ดี ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ต่างๆ ร่างกายอ่อนแอ เป็นหวัดง่าย ไอจามบ่อยๆ หากได้รับประทานโสมจะสามารถลดอาการเหล่านี้ลงได้อย่างดีเลยทีเดียว

ข้อควรระวังในการทานโสม

แม้ว่าโสมจะมีความปลอดภัยต่อร่างกายสูง แต่หากทานโสมแล้วเกิดอาการผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีผื่นแดง หรืออาการอื่นๆ ควรปรึกษาแพทย์ทันที นอกจากนี้การเลือกชนิดของโสมก็มีความจำเป็น ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงไม่ควรทานโสมแดง เพราะจะยิ่งเพิ่มความร้อน และความดันโลหิตให้กับร่างกายได้ ควรเลือกทานเป็นโสมขาวที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดความดันโลหิตจะดีกว่า และหญิงมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานโสมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นโสมชนิดใดก็ตาม

ที่มา : sanook.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


กู้หุ่นอวบให้ผอมเพรียวได้ด้วยสารสกัดแคคตัส

หากการมีสุขภาพที่แข็งแรงคือลาภอันประเสริฐการมีรูปร่างสมส่วนนั้นย่อมไม่ต่างกัน แต่การได้มาซึ่งรูปร่างสมส่วนนั้นก็อาจจะไม่ง่ายสำหรับบางคนเช่นกัน ความอ้วนและไขมันส่วนเกิน เกิดจากพฤติกรรมตามใจปาก จนเกิดไขมันสะสมพอกพูนแล้วความอ้วนก็ตามมา วันนี้ SI มีเรื่องราวของสารสกัดตัวหนึ่ง ซึ่งได้รับการยอมรับจากนักโภชนาการทั่วโลกว่าสามารถลดน้ำหนักได้อย่างได้ผล นั่นก็คือกระบองเพชรนั้นเอง กระบองเพชรอุดมด้วยคุณค่าสารอาหารมากมาย ที่มีประโยชน์ในการลดน้ำหนัก ลดไขมันและโคเลสเตอรอล ลดระดับน้ำตาลและช่วยต่อต่านอนุมูลอิสระได้ด้วย เราไปทำเจาะลึกคุณประโยชน์ของเจ้าสารสกัดมหัศจรรย์ตัวนี้กันค่ะ

กลไกการทำงานของกระบองเพชร

ยับยั้งการสร้างไขมัน ลดความอยากอาหาร อิ่มนาน ไม่หิวบ่อย สารสกัดจากกระบองเพชร ( Cactus Extract) กระบองเพชรเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดแถบทะเลทราย ช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่ใช้สร้างไขมัน พร้อมทั้งกระตุ้นให้ร่างกายนำไขมันสะสมมาเผาผลาญได้ดีขึ้น และยังอุดมด้วยเส้นใยคุณภาพสูง ช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด อุ้มน้ำได้ดี จึงช่วยลดความอยากอาหาร ช่วยให้ระบบการขับถ่ายเป็นปกติ ป้องกันโรคริดสีดวง 

ดักจับไขมัน ล้างพิษขจัดของเสีย ไคโตซาน (Chitosan) สารสกัดจากเปลือกสัตว์ทะเลกุ้งและปูให้สารสกัด ไคโตซาน ซึ่งมีประจุเป็นบวก ช่วย ดักจับไขมัน ที่มีประจุเป็นลบ ในระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะในกระเพาะอาหาร ที่มีสภาพเป็นกรด ป้องกันการดูดซึมของไขมันส่วนเกินจึงมีผลลดและควบคุมน้ำหนักได้ และยังช่วยล้างพิษของลำไส้ และจากการศึกษา การรับประทานไคโตซาน วันละ 1,350 มก.ต่อวัน ในผู้ป่วยไตวายเรื้อรัง 80 ราย พบว่า เพียง 4 สัปดาห์ ระดับไขมันและของเสียในเลือดลดลง อย่างมีนัยสำคัญ 

เร่งการเผาผลาญน้ำตาลลดการสะสมไขมัน สารสกัดจากผลส้มแขก (Garcinia Cambogia Extract ) สารสกัดจากผลส้มแขกให้สารสกัด ชื่อ Hydroxy citric acid (HCA) จะเข้าไปขัดขวางการทำงานของเอนไซม์ที่เปลี่ยนน้ำตาลไห้เป็นไขมัน ดังนั้น จึงช่วยลดการสะสมของไขมัน และยังช่วยให้อิ่มเร็ว รับประทานอาหารตามได้น้อยอีกด้วย 

ช่วยให้อิ่มเร็ว ช่วยระบาย ป้องกันริดสีดวง มะเร็งลำไส้ใหญ่ ไซเลียม ฮัชค์ ( Psyllium husks) เส้นใยจากพืชธรรมชาติ มีลักษณะพิเศษพองตัวเหมือนเมือก ทำให้ช่วยดูดซับไขมันที่มาพร้อมอาหาร อุจจาระมีลักษณะลื่น ขับถ่ายสะดวก สารสกัดจากผลแอปเปิล (Apple Extract) สารสกัดจากแอปเปิล อุดมด้วยเส้นใยคุณภาพ ช่วยลดความอยากอาหาร ชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ลดการสะสมไขมันใหม่ เซลลูโลส(Cellulose) เส้นใยจากพืชธรรมชาติ ช่วยดูดซับไขมัน โคเลสเตอรอลพร้อมขับถ่ายออกจากร่างกาย พร้อมยังช่วยให้อิ่มเร็ว ไม่หิวบ่อย เอะคาเซียกัม (Acacia gum) เส้นใยชนิดพิเศษ ช่วยอุ้มน้ำเพิ่มปริมาณกากใยในกระเพาะช่วยทำให้อิ่มเร็ว ช่วยเรื่องระบบการขับถ่าย ป้องกันโรคริดสีดวง มะเร็งลำไส้ใหญ่

ซ่อมแซมลำไส้ ต้านอนุมูลอิสระ เร่งการเผาผลาญ ไบโอฟลาโวนอยด์ (Bioflavonoid) สารต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยซ่อมแซมเซลล์ในระบบทางเดินอาหาร บำรุงผิวให้สวยสดใส ต้านแก่ก่อนวัย วิตามิน ซี วิตามิน บี 6 (Vitamin C , Vitamin B 6) เร่งระบบการเผาผลาญของร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน ฟื้นฟูสุขภาพร่างกายและเสริมผิวให้แข็งแรง บำรุงระบบประสาท สารสกัดจากมะขามป้อม (Emblic Extract) อุดมด้วยวิตามิน ซี สูง ช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ต่อต้านริ้วรอย และยังมีฤทธิ์ช่วยระบายอ่อนๆ โอลิโกฟรุกโตส (Oligofrutose) เส้นใย “พรีไบโอติก ” เป็นอาหารของจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยเสริมการทำงานของลำไส้ ให้ทำงานปกติ เพื่อการขับถ่ายที่เป็นปกติ

ที่มา : 108health.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


เจาะลึก “ไคโตซาน” สารสกัดมหัศจรรย์จากธรรมชาติ

ไคติน-ไคโตซาน ชื่อนี้หลายคนอาจยังไม่คุ้นหูนัก แต่ถ้าบอกว่าสารสกัดนี้อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยควบคุมน้ำหนัก และไคตินยังมีสรรพคุณอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการดักจับคราบไขมัน โลหะหนัก อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และมักจะนำมาเป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางอีกด้วย วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จักสารมหัศจรรย์จากธรรมชาติชนิดนี้กันค่ะ

ไคติน คืออะไร ไคตินเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพชนิดหนึ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อ เป็นองค์ประกอบในโครงสร้างต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตมากมายหลายชนิด ไคตินเป็นพอลิเมอร์ชีวภาพที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก และเนื่องจากไคตินเป็นพอลิเมอร์ที่พบในธรรมชาติ เราจึงมักพบไคตินในรูป สารประกอบเชิงซ้อนที่อยู่รวมกับสารอื่นๆ ไคตินเป็นสารประกอบพวกคาร์โบไฮเดรตเช่นเดียวกับเซลลูโลสและแป้ง รูปร่างของไคตินจะเป็นเส้นสายยาวๆ มีลักษณะคล้ายลูกประคำที่ประกอบขึ้นมาจาก น้ำตาลโมเลกุลเล็กๆ ที่มีชื่อว่า เอ็น-อะซิทิลกลูโคซามีน ไคติน-ไคโตซาน ดาวรุ่งพุ่งแรง เมื่อพูดถึงไคติน อีกคำที่มักจะพ่วงมาด้วยคือ ไคโตซาน ไคโตซาน คืออนุพันธ์ตัวหนึ่งของไคติน รูปร่างหน้าตาของมันก็จะละม้ายคล้ายกับไคติน ไคโตซานจะได้จากปฏิกิริยาการดึงส่วนที่เรียกว่า หมู่อะซิทิล (acetyl group) ของไคตินออกไป เรียกว่า ปฏิกิริยาดีอะซิทิเลชัน (deacetylation) ทำให้จากเดิมโมเลกุลเดี่ยวของไคตินที่เคยเป็น เอ็น-อะซิทิลกลูโคซามีน ถูกแปลงโฉมใหม่เหลือแค่ กลูโคซามีน (glucosamine) 

จากที่เคยเรียกว่าไคตินก็เลย เปลี่ยนชื่อเป็นไคโตซาน การหายไปของหมู่อะซิทิล ทำให้ไคโตซานมีส่วนของโมเลกุลที่แอคทีฟ และพร้อมที่จะทำ ปฏิกิริยาอย่างว่องไวอยู่หลายหมู่ หมู่ที่เด่นๆ เลยก็คือ หมู่อะมิโน (-NH2) ตรงคาร์บอนตัวที่ 2 หมู่แอลกอฮอล์ (CH2OH) ตรงคาร์บอนตัวที่ 6 และหมู่แอลกอฮอล์ที่คาร์บอนตัวที่ 3 และเพราะหมู่ที่อยากทำปฏิกิริยานี้เองที่ทำให้ไคโตซานมีโอกาสได้ฉายแววรุ่งโรจน์ในหลายๆ วงการ

ไคติน-ไคโตซาน ทำงานได้อย่างไร ไคติน-ไคโตซาน จะทำงานเป็นตัวสร้างตะกอนและตัวตกตะกอน ตัวสร้างตะกอนจะกระตุ้นให้เศษของเสียที่แขวนลอยๆ ในน้ำเกิดการรวมกันเป็นกลุ่มก้อน ใหญ่ขึ้นๆ และพอใหญ่มากเกินก็ตกเป็นตะกอนลงมา ส่วนตัวตกตะกอน ก็จะทำงานคล้ายๆ กันคือจะไปจับกับสารแขวนลอยในน้ำแล้วตกตะกอนลงมา โดย-ไคโตซานจะทำหน้าที่ทั้งสองแบบ ซึ่งทำได้ดีเนื่องจากมีหมู่อะมิโนที่สามารถแตกตัวให้ประจุบวกมาก จึงทำให้พวกประจุลบอย่างโปรตีน สีย้อม กรดไขมันอิสระ คอเลสเทอรอล (ในร่างกาย) ต้องเข้ามาเกาะกับประจุบวกของไคโตซาน ส่วนโลหะหนักซึ่งเป็นประจุบวกอยู่แล้ว จะจับกับอิเล็กตรอนจากไนโตรเจนในหมู่อะมิโนของไคโตซานทำให้เกิดพันธะเคมีที่เรียกว่า พันธะเชิงซ้อนขึ้นมา และจากการทดลองพบว่าหมู่อะมิโนในไคโตซานจะสามารถจับกับโลหะหนักในน้ำ ได้ดีกว่าหมู่อะซิทิลของไคติน

ประโยชน์ของไคติน-ไคโตซาน ไคติน-ไคโตซานเป็นตัวอย่างของการจัดการกับกากของเสียที่ชาญฉลาด ซึ่งตอนนี้ถูกนำไปใช้ ประโยชน์หลายๆ อย่างได้อย่างน่าทึ่งในแทบทุกวงการเลยทีเดียว ทั้งการแพทย์ การเกษตร อุตสาหกรรม และสิ่งแวดล้อม ในทางการแพทย์ ไคตินสุดไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านจากร่างกาย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายทั้งยังช่วยส่งเสริมการเจริญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อคนอีก ไคติน-ไคโตซานก็เลยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากที่จะได้รับการพัฒนาไปใช้ในทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้ส่งเสริมการเจริญของแบคทีเรียในลำไส้ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพ ต่อต้านมะเร็ง ช่วยลดสารพิษและยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียที่เป็นอันตรายอย่างเชื้อซัลโมเนลลา ใช้ทำผิวหนังเทียมที่จะช่วยบรรเทาความทุกข์ทรมานให้กับผู้ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือพวกประสบอุบัติเหตุที่มีแผลลึกๆ ในทางการเกษตร ไคโตซานสามารถก่อตัวเป็นฟิล์มบาง ใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เคลือบผิวเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิตทางการเกษตรและเมล็ดพันธุ์ และยังมีการนำเอาอนุพันธ์ของไคตินและไคโตซานไปเป็นสารต่อต้านเชื้อรา ไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งมันสามารถทำงานได้อย่างกว้างขวาง เช่น ยับยั้งโรคโคนเน่าจากเชื้อรา โรคแอนแทรกโนส และโรคอื่นๆ ไคติน-ไคโตซานสามารถใช้เป็นสารเสริมผสมลงในอาหารสัตว์บก เช่น สุกร วัว ควาย เป็ด ไก่ ช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในทางเดินอาหาร ช่วยลดอาการท้องเสียของสัตว์ได้ และลดอัตราการตายของสัตว์วัยอ่อนอันเนื่องมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิดในทางเดินอาหาร ในด้านความสวยความงาม ไคติน-ไคโตซานสามารถลดความอ้วน ได้ดีสุดยอดอย่างที่เราไม่อยากจะเชื่อ เมื่อไคตินนั้นได้กลายเป็นไคโตซานแล้ว ประจุบวกอันมหาศาลของไคโตซาน จะเป็นที่ดึงดูดใจมากของเหล่ากรดไขมันอิสระ และคอเลสเทอรอลที่มีประจุลบ ดังนั้นเจ้าตัวต้นเหตุของความอ้วน ทั้ง 2 ตัว ก็จะเกาะติดแจกับไคโตซาน และคนไม่สามารถย่อยไคติน-ไคโตซานได้ทั้งหมดจึงถูกขับออกมาพร้อม กับอุจจาระโดยที่มีคอเลสเทอรอลและไขมันส่วนเกินตามออกมาด้วย

ไคโตซานมีประจุบวกอย่างล้นเหลือทำให้มันสามารถเกาะกับประจุลบของผิวหนังและเส้นผมได้เป็นอย่างดี จึงถูกนำไปใส่ในเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ธรรม ชาติที่เราคงคุ้นชื่อกันดีว่ากรดแอลฟาไฮดรอกซี หรือ AHA ไงครับ กรดพวกนี้จะกระตุ้นให้ผิวหนังเก่าหลุดลอก เพื่อสร้างผิวใหม่ ทำให้ผิวคุณดูอ่อนเยาว์ขึ้น ส่วนในการบำรุงเส้นผม ไคโตซานจะก่อตัวเป็นฟิล์มเคลือบเส้นผมไว้ ทำให้เส้นผมคงสภาพนุ่มสลวยไม่เสียง่าย ในด้านสิ่งแวดล้อม ไคโตซานคือสุดยอดนวัตกรรมที่เกิด มาจากเทคโนโลยีการใช้กากของเสียให้เป็นประโยชน์ เป็นทางออกที่ดีทั้งต่อมนุษย์และต่อสิ่งแวดล้อม ในการจัดการเปลือกกุ้งมากมาย ที่ถูกทิ้งจากอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ บทบาทที่สำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อมของไคโตซานที่เรารู้ๆ กันก็คือการบำบัดน้ำทิ้ง น้ำเสีย นอกจากการบำบัดน้ำเสียแล้ว ไคโตซานยังมีความสามารถในการจับกับของแข็งแขวนลอยได้ดี และจับกับอะตอมของ โลหะหนัก รวมทั้งมีการนำไปจับกับสารกัมมันตรังสีอย่างพลูโตเนียมและยูเรเนียมด้วย ส่วนการจับกับคราบไขมันนั้น กลไกการจับก็คล้ายๆ กับการจับกับไขมันในทางเดินอาหาร

และบทบาทที่คนไม่ค่อยจะรู้กันประการหนึ่งก็คือ มีการใช้ไคโตซานผสมกับพลาสติกเพื่อผลิตพลาสติก ที่สามารถย่อยสลายได้ ในภาคอุตสาหกรรม ไคตินและไคโตซาน มีประโยชน์อย่างมากมายใน อุตสาหกรรมอาหาร เช่น ใช้เสริมใยอาหารธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแป้ง ใช้เพิ่มความเหนียวแน่นให้กับ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ใช้เพิ่มกลิ่นรสให้ดีขึ้นกับผลิต ภัณฑ์เนื้อสัตว์ อุตสาหกรรมเส้นใย กระดาษ สิ่งทอ ก็มีการใช้ไคโตซาน เช่น ใช้ทำภาชนะบรรจุที่ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ ทำฟิล์มถนอมอาหารที่สามารถรับประทานได้ ใช้ในการผลิตผ้าที่ย้อมสีติดทนนาน ใช้ในกระบวนการผลิตกระดาษ ที่มีคุณสมบัติทางกายภาพสูง ทนทานต่อการฉีกขาด หรือผลิตกระดาษที่ซับหมึกได้ดีเพื่อการพิมพ์ที่ต้องการคุณภาพสูง

ที่มา : 108health.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


29 คุณประโยชน์ของงาดำ

งาดำ (Black sesame seeds) ถือเป็นพืชที่มีคุณประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพ สามารถที่จะรับประทานเป็นประจำอย่างต่อเนื่องได้ ซึ่ง งาดำมีสรรพคุณช่วยทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และหากเรารับประทานเป็นประจำ ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรงมากกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทาน ภายในงาดำนั้น อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย อาทิเช่น วิตามิน B รวม , เหล็ก (Iron) แมกนีเซียม (Magnesium) , ฟอสฟอรัส (Phosphorus) , โซเดียม (Sodium) , สังกะสี (zinc) , แคลเซียม (Calcium) และ โพแทสเซียม (Potassium) เป็นต้น นอกจากนั้น งาดำยังช่วยบำรุงสุขภาพในทุกส่วนของร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้หญิงวัยทองอีกด้วย

สรรพคุณของงาดำ

ภายในงาดำ มีสารอาหารต่างๆ มากมายหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกาย และยังมีสรรพคุณช่วยชะลอความแก่ ทำให้ดูอ่อนกว่าวัย รวมไปถึงช่วยบำรุงผิวพรรณของเราให้สดใสอยู่เสมออีกด้วย

– งาดำมีความสำคัญอย่างมากต่อความสมบูรณ์ของร่างกาย

– ช่วยชะลอความแก่ คงความอ่อนเยาว์

– ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส ชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย

– ช่วยซ่อมแซมและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผิวหนังของคุณ

– ช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง และช่วยให้ผมดกเงางาม

– ช่วยป้องกันผมหงอก

– ช่วยเพิ่มพลังงานและความแข็งแรงของร่างกาย

– ช่วยในการเผาผลาญและสลายไขมัน ลดความอ้วน

– ช่วยลดการดูดซึมและการสังเคราะห์คอเลสเตอรอล

– ช่วยป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว

ที่มา : medthai.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


6 อาหารไขมันดี ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและไขมันอุดตัน

ใครอยาก Diet ห้ามพลาด! การลดน้ำหนักมักเริ่มจากการลดไขมัน ซึ่งอาจไม่ถูกซะทีเดียวนะคะ จริงๆ แล้วสิ่งที่ควรลดคือ แป้งและน้ำตาลต่างหากละคะ แต่ทราบกันมั๊ยคะว่าไขมันมีทั้งชนิดดีและชนิดเลว วันนี้ SI จะพาทุกคนไปรู้จักกับไขมันดีกันค่ะ

ไขมันดี คืออะไร?

ไขมันดีเราเรียกว่า HDL ส่วนไขมันเลวเราเรียกว่า LDL เจ้าไขมันเลวนี่แหละที่เป็นตัวการของโรคต่างๆ อย่างที่ทราบกันโดยทั่วไปคือ โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด ที่นำไปสู่ภาวะหัวใจขาดเลือดได้ นอกจากภายในร่างกายจะแย่แล้ว ยังเป็นไขมันที่ทำให้เราเป็นโรคอ้วนอีกด้วย ส่วนไขมันดี หรือ HDL ที่ว่าเป็นไขมันดี ก็เพราะมันไม่ใช่ตัวการสำคัญของโรคต่างๆ เหมือนไขมันเลว แต่ยังเป็นตัวที่คอยเก็บคราบไขมันตามผนังหลอดเลือดออกไป แล้วขับออกจากร่างกายผ่านตับ และน้ำดีอีกด้วย เพราะฉะนั้นรู้หรือยังว่าทำไมเราจำเป็นที่จะต้องทานไขมันดีเข้าไปในร่างกายบ้าง

อาหารที่มีไขมันดี

อาหารที่มีไขมันดีมีอยู่จำนวนไม่น้อย แต่ที่เราอยากแนะนำให้ทานกัน มีดังนี้

1. น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกเป็นอาหารชนิดแรกๆ ที่เราอยากแนะนำให้คนไทยได้ทานกัน เพราะคนไทยจะถนัดการใช้น้ำมันชนิดอื่นทำอาหารเสียมากกว่า แต่อันที่จริงแล้วน้ำมันมะกอกช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีให้กับร่างกาย ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้เป็นอย่างดี น้ำมะกอกชนิด Extra Virgin, Virgin ควรนำมาทานสดๆ ผสมกับน้ำสลัด โดยไม่ผ่านความร้อน แต่หากอยากนำมาใช้ประกอบอาหารร้อนแทนน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม ควรเลือกเป็นน้ำมันมะกอกชนิด Extra Light Olive Oil หรือ Olive Pomace Oil ที่ทนต่อความร้อนได้แทน

2. น้ำมันเมล็ดฟักทอง

อีกหนึ่งตัวเลือกหากใครไม่ชอบน้ำมันมะกอก น้ำมันเมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 สูง มีส่วนช่วยในการทำงานของระบบย่อยอาหาร เพิ่มการไหลเวียนของโลหิตได้ดียิ่งขึ้น และดีต่อสุขภาพของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และคุณแม่ที่กำลังให้นมบุตร

3. อัลมอนด์

เห็นเป็นของทานเล่นอร่อยๆ แบบนี้ มีประโยชน์มากมาย เพราะอัลมอนด์ช่วยเพิ่มไขมันดี และลดไขมันเลวโดยตรงเลยทีเดียว ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ และยังมีวิตามิน และแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกเพียบ เช่น วิตามินอี โฟเลต แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม ฯลฯ บ่ายๆ แทนที่จะหยิบขนมหวานเข้าปาก ลองทานเมล็ดอัลมอนด์ 1 กำมือดูนะคะ

4. หอมหัวใหญ่

ใครที่ไม่ชอบทานหอมหัวใหญ่อาจจะต้องลองคิดดูใหม่ เพราะหอมหัวใหญ่เป็นอีกหนึ่งอาหารสำคัญที่ช่วยลดปริมาณไขมันเลว และเพิ่มไขมันดีให้กับร่างกาย ช่วยกำจัดคอลเสเตอรอลที่อยู่ตามผนังหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี และยังช่วยไม่ให้เลือดแข็งตัว จนอุดตันเส้นเลือดอีกด้วย จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด และอัมพาตได้

5. อะโวคาโด

คนไทยเริ่มคุ้นเคยกับอะโวคาโดมากขึ้น และราคาก็เริ่มย่อมเยา เพราะประเทศไทยเริ่มมีการปลูกอะโวคาโดทานเอง (หากซื้อใกล้แหล่งปลูกจะถูกมากกว่าตามห้างสรรพสินค้าที่สินค้านำเข้า) อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีสูงมาก นอกจากจะช่วยลดคอเลสเอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้แล้ว อะโวคาโดยังเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานสูง แต่น้ำตาลต่ำ จึงเหมาะกับผู้ที่อยากจำกัดอาหารเพื่อลดน้ำหนัก และผู้ป่วยเบาหวานก็ทานได้ดี

6. ปลาทะเลน้ำลึก

น่าจะเคยได้ยินกันว่าปลาทะเลน้ำลึกมีโอเมก้า-3 อยู่ด้วย นอกจากจะช่วยบำรุงสมอง พัฒนาสมองในด้านการจำแล้ว ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และเพิ่มไขมันชนิดดีให้กับร่างกายได้อีกด้วย ปลาทะเลน้ำลึกที่อยากแนะนำ ได้แก่ แซลมอน แมคเคอเรล ทูน่า และซาร์ดีน

นอกจากนี้ไขมันดียังพบได้ในถั่วต่างๆ เช่น แมคคาเดเมีย พิสตาชิโอ และน้ำมันต่างๆ เช่น น้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย น้ำมันเมล็ดแฟล็กซ์ น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส น้ำมันคาโนลา ลองสับเปลี่ยนหมุนเวียนทานไปเรื่อยๆ ก็จะทำให้เราได้รับไขมันดี พร้อมกับคุณค่าทางสารอาหารอื่นๆ ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นนะคะ

ที่มา : medthai.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


10 เรื่องของวิตามินที่คุณอาจไม่รู้

ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่าวิตามินเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกายมีแต่คุณประโยชน์ แต่รู้ไหมว่าวิตามินต่าง ๆ มีความลับซ่อนอยู่ที่หากคุณได้รู้จะช่วยให้คุณดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมและดีต่อร่างกายยิ่งขึ้นได้ วันนี้ SI พาทุกคนไปหาคำตอบกันค่ะ

1. วิตามินบางชนิดควรได้รับทุกวัน
วิตามินบางชนิดจำเป็นต้องได้รับทุกวัน ได้แก่ วิตามินซีและบี ซึ่งเป็นวิตามินที่ละลายได้ในน้ำ วิตามินกลุ่มนี้ไม่ถูกสะสมหรือกักเก็บในร่างกายได้นาน จะถูกกำจัดออกทางปัสสาวะและเหงื่อ เราจึงต้องได้รับวิตามินกลุ่มนี้ทุกวัน และแม้ร่างกายจะได้รับวิตามินกลุ่มนี้มากเกินไป ส่วนเกินของวิตามินจะถูกขับออกโดยไม่ทำให้เกิดพิษหรือปัญหาต่อร่างกาย

2. เอ ซี อี ซิลีเนียม เด่นชะลอวัย
วิตามินเอ ซี อี และแร่ซิลีเนียมเป็นกลุ่มวิตามินที่ให้ผลลัพธ์ในเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระโดดเด่นกว่าวิตามินตัวไหน ๆ ซึ่งพบมากในผลไม้ อาทิ ลูกพรุน องุ่น ผลไม้ชนิดเบอร์รี ฝรั่ง และส้ม ส่วนผักก็ได้แก่ ผักบุ้ง บลอกโคลี ผักขม ซึ่งการทานให้ได้ผลดีสุดควรทานในรูปแบบผักผลไม้สด แต่หากเป็นคนที่ทานผักผลไม้น้อย แหล่งอาหารเสริมก็เป็นทางเลือกที่สองได้

3. เบตาแคโรทีน ทานดีทั้งรูปแบบอาหารและอาหารเสริม
หากต้องการทานเบตาแคโรทีนเพื่อบำรุงสุขภาพ ป้องกันความเสื่อมถอยของร่างกาย แนะนำให้รับประทานในรูปอาหารซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในผักผลไม้ที่มีสีส้มหรือสีเหลือง แต่หากต้องการทานเพื่อการรักษาภาวะความเสื่อมที่เป็นอยู่ ก็สามารถเลือกทานในรูปแบบอาหารเสริมได้ แต่ควรให้อยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ดีที่สุด

4. ไข่ขาวดิบ ทำลายวิตามินบี 7
ไข่ขาวดิบ มีสารที่ส่งผลต่อไบโอตินในวิตามินบี 7 ที่อยู่ในลำไส้และขัดขวางการดูดซึมของร่างกาย หากรับประทานไข่ขาวดิบปริมาณมากเป็นระยะเวลานาน ๆ เช่น 2 ฟองหรือมากกว่า 2 ฟองต่อวันเป็นเวลาหลายเดือน จะทำให้ร่างกายขาดไบโอตินได้ เพราะในไข่ขาวมีสารที่ทำลายไบโอติน

5. วิตามินซีไม่ได้มีดีแค่ป้องกันหวัด
วิตามินซีเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายในชีวิตประจำมาก ๆ เพราะช่วยต้านความเครียด เพิ่มความสดชื่นและความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย ที่สำคัญคือ ช่วยต้านริ้วรอยโดยการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีบทบาทช่วยลดภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานได้ด้วย

6. วิตามินดี ดีจริง ๆ
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าวิตามินดีมีดีกว่าการเสริมสร้างแคลเซียมในกระดูกและฟัน หรือกระตุ้นการทำงานของเนื้อเยื่อในร่างกาย เพราะมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยต้านมะเร็งลำไส้ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม รวมถึงยังช่วยลดอาการซึมเศร้า และลดอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังด้วย

7. วิตามินอี ไม่ได้มีดีแค่เรื่องผิวพรรณ
วิตามินอีขึ้นชื่อเรื่องการบำรุงผิวสำหรับสาว ๆ แต่สำหรับหนุ่ม ๆ ก็ไม่น้อยหน้า เพราะช่วยแก้ปัญหาความบกพร่องของระบบสืบพันธุ์ที่ไม่สมบูรณ์ และเพิ่มโอกาสในการมีบุตรในผู้ที่มีบุตรยาก รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจด้วย

8. วิตามินบี 5 ปราบสิว
สาเหตุหนึ่งของคนที่เป็นสิวอาจเพราะขาด Coenzyme-A ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ใช้วิตามินบี 5 ในการสร้าง ซึ่งส่งผลให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ไม่ดี ไขมันจึงออกมาทางส่วนต่าง ๆ ของผิวหนังเป็นเหตุให้เกิดการอุดตันที่ผิวหนังและเป็นสิวในที่สุด แต่หากร่างกายมีวิตามินบี 5 เพียงพอก็จะทำให้ระบบการเผาผลาญไขมันทำงานปกติ ผิวหนังไม่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินจนเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิว

9. กินวิตามินพร้อมอาหารและหลังอาหาร
ช่วงเวลาสำหรับการรับประทานวิตามินคือ ทานพร้อมอาหารและหลังอาหารเพื่อการดูดซึมที่ดีที่สุด แต่ก็มีวิธีทานวิตามินให้ได้ผลดี คือ วิตามินบีรวมและวิตามินซี ควรรับประทานพร้อมอาหารเช้า กลางวัน เย็น เพื่อให้วิตามินอยู่ในระดับสูงตลอดทั้งวัน ส่วนวิตามินเอ ดี อี เคที่ละลายได้ดีในไขมัน ควรทานพร้อมมื้ออาหารที่มีไขมัน และถ้าต้องทานวิตามินในมื้อเดียวให้เลือกมื้อที่ใหญ่ที่สุดของวัน หรือทานครึ่งหนึ่งหลังอาหารเช้า ครึ่งหนึ่งหลังอาหารเย็นก็ได้เช่นกัน

10. วิตามินมีกลิ่นไม่ได้เสีย
หลายคนเมื่อได้กลิ่นแรงของวิตามินมักคิดว่าเสีย แต่ความจริงแล้วคือการเสื่อม ซึ่งเกิดจากการเก็บไว้ผิดที่คือ โดนแสงแดดและอุณหภูมิสูงเกินไป หากรับประทานก็ไม่ได้เป็นอันตราย เพียงแต่ประสิทธิภาพอาจจะลดลง นอกจากนี้วิตามินที่มีรอยร้าวที่เม็ดก็ยังมีคุณภาพและทานได้ตามปกติ เพราะเกิดจากการเคลือบเม็ดมาไม่ดีเท่านั้น

ที่มา: bangkokhospital.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน


Detox ง่ายๆ ด้วย 15 สุดยอดอาหารล้างพิษ

ปกติร่างกายเรามีการขับถ่ายและกำจัดของเสียตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่บางครั้งร่างกายอาจได้รับสารพิษมากเกินไป หรือมีของเสียคั่งค้างและกำจัดได้ไม่หมด จนกลายเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ ด้วยความที่ยุคปัจจุบัน ผู้คนสนใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น จึงเริ่มมีการใช้กรรมวิธีกำจัดสารพิษในร่างกายที่เรียกว่า การ “ดีท็อกซ์” กันมากขึ้น ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สิ่งไม่พึงประสงค์ที่คั่งค้างอยู่ถูกชะล้างออกไป และช่วยฟื้นฟูร่างกาย ขจัดโรคภัยต่างๆ ได้

การดีท็อกซ์ หรือ Detox มาจากคำว่า Detoxification ซึ่งแปลว่า การขจัดสารพิษ และสิ่งแปลกปลอมออกไปจากร่างกาย โดยใช้ระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากสารที่เรารับเข้าไปหลายอย่าง อาจเกิดการสะสม และทำปฏิกิริยากับสารอื่นๆ ภายในร่างกาย ทำให้เกิดผลเสียได้ ปัจจุบัน การขจัดสารพิษด้วยการดีท็อกซ์ถือเป็นการแพทย์ทางเลือกอย่างหนึ่ง ซึ่งวิธีหรือสูตรการดีท็อกซ์ก็มีด้วยกันมากมายหลากหลาย วันนี้ SI มี 10 อาหารที่ถือว่าเป็นสุดยอดอาหารเพื่อการ Detox อย่างแท้จริง จะมีอะไรไปดูกันค่ะ

1. แอปเปิ้ล
เพราะในแอปเปิ้ลอุดมไปด้วยเพคติน ซึ่งเป็นเส้นใยอาหารชนิดที่สามารถดักจับคอเลสเตอรอลและโลหะหนักในร่างกายได้ ช่วยกำจัดสารพิษแล้วขับออกมาทางลำไส้ ถ้าจะให้ดีควรเลือกทานแอปเปิ้ลที่ปลูกแบบออแกนิก

2. อะโวคาโด
เรามักจะคิดแค่ว่าอะโวคาโดเป็นอาหารคลีน แต่ความจริงแล้วอะโวคาโดนี้เป็นแหล่งของสารอาหารที่ทรงพลัง ทั้งยังมีคอเลสเตอรอลต่ำ และช่วยขยายหลอดเลือด และช่วยปิดกั้นสารพิษที่เข้ามาทำลายหลอดเลือดแดง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีชื่อว่ากลูต้าไธโอน ช่วยต้านทานสารก่อมะเร็งได้อย่างน้อยถึง 30 ชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังช่วยล้างพิษตับจากสารเคมีต่างๆ ได้

3. บีทรูท (ผักกาดแดง)
ในหัวบีทรูทนั้นมีสารประกอบตามธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์ที่ช่วยในการฟอกเลือด และจัดเป็นพืชที่ช่วยในการล้างพิษตับได้อย่างดีเยี่ยม

4. บลูเบอร์รี่
บลูเบอร์รี่จัดเป็นอาหารเพื่อการบำบัดที่ทรงพลังอีกชนิดก็ว่าได้ เพราะในบลูเบอร์รี่นั้นมีแอสไพรินตามธรรมชาติที่ช่วยลดผลกระทบจากเนื้อเยื่ออักเสบเรื้อรัง และลดความเจ็บปวดลงได้ นอกจากนี้บลูเบอร์รี่ยังทำหน้าที่เป็นยาปฏิชีวนะด้วยการต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการต้านไวรัสและป้องกันสารพิษเข้าสู่สมองได้ด้วย

5. กะหล่ำปลี
ในกะหล่ำปลีมีสาระต้านมะเร็งอยู่หลายชนิด และยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกจำนวนมากช่วยให้ตับทำลายฮอร์โมนส่วนเกินออกไป อีกทั้งในกะหล่ำปลียังช่วยทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร ช่วยลดสารพิษจากควันบุหรี่ และเพิ่มประสิทธิภาพในการล้างพิษของตับได้

6. ขึ้นฉ่าย
ทั้งขึ้นฉ่ายและเมล็ดขึ้นฉ่ายต่างก็ช่วยดีท๊อกซ์เลือดได้อย่างดีเยี่ยม มีสารต้านมะเร็งอยู่หลายชนิด ช่วยล้างพิษเซลล์มะเร็งออกไปจากร่างกาย ในเมล็ดขึ้นฉ่ายนั้นมีสารต้านการอักเสบอีกกว่า 20 ชนิด จึงช่วยกรองสารพิษที่พบในควันบุหรี่ออกไปได้

7. แครนเบอร์รี่
ช่วยล้างพิษร่างกายจากแบคทีเรียที่เป็นอันตรายและไวรัสที่อาจตกค้างอยู่ในทางเดินปัสสาวะได้ เพราะในแครนเบอร์รี่นั้นมีสารที่เป็นทั้งยาปฏิชีวนะและต่อต้านไวรัสตามธรรมชาติอยู่มาก

8. เมล็ดลินิน
อุดมไปด้วยกรดไขมันสำคัญๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้งเมล็ดลินินและน้ำมันเมล็ดลินินต่างก็สำคัญต่อการทำความสะอาดระบบต่างๆ ตลอดทั้งร่างกายได้

9. กระเทียม
ทานกระเทียมช่วยล้างแบคทีเรียที่เป็นพิษออกไปได้ รวมไปถึงพยาธิในลำไส้และไวรัสต่างๆ ภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อยู่ในเลือดและลำไส้ กระเทียมช่วยล้างพิษที่สะสมอยู่ในหลอดเลือดแดง และยังช่วยต่อต้านมะเร็ง มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยล้างพิษจากสารอันตรายภายในร่างกาย นอกจากนี้กระเทียมยังเป็นผู้ช่วยสำคัญในการทำความสะอาดทางเดินหายใจด้วยการขับสารพิษออกจากปอดและไซนัส เพื่อให้ได้รับประโยชน์มากที่สุดควรเลือกทานเป็นกระเทียมสด เพราะในกระเทียมผงนั้นไม่มีคุณสมบัติดี ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น

10. เกรปฟรุต (ผลไม้ตระกูลส้ม)
ทานเกรปฟรุตในมื้อเช้าจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากเส้นใยเพคตินที่ช่วยดักจับคอเลสเตอรอล ดังนั้นจึงช่วยทำความสะอาดเลือดได้ เพคตินยังช่วยดักจับโลหะหนักและนำพาออกไปจากร่างกาย นอกจากนี้เกรปฟรุตยังมีสารที่ช่วยต้านไวรัสจึงขจัดไวรัสที่ทำอันตรายออกไปได้ เกรปฟรุตจัดเป็นผลไม้ล้างพิษที่ยอดเยี่ยมสำหรับลำไส้และตับเลยทีเดียว

11. ผักคะน้า
ผักคะน้านึ่งมีประโยชน์ในการช่วยต่อต้านมะเร็ง และเต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยล้างสารพิษออกไปจากร่างกายได้ ทั้งยังเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร คล้ายๆ กับกระหล่ำปลีนั่นเอง คะน้ายังทำให้สารที่พบในควันบุหรี่มีความเป็นกลาง และยังช่วยล้างพิษตับได้อย่างมีประสิทธิภาพ

12. พืชตระกูลถั่ว
เพิ่มถั่วที่ปรุงสุกแล้วลงไปในอาหารมื้อต่อไปของคุณ มันเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล ทำความสะอาดลำไส้และรักษาระดับน้ำตาลในเลือด พืชตระกูลถั่วยังช่วยป้องกันมะเร็งได้ด้วยนะ

13. เลมอน
จัดเป็นสารล้างพิษตับชั้นเยี่ยม ในเลมอนประกอบไปด้วยวิตามินซีสูงมาก ซึ่งเป็นวิตามินที่ร่างกายต้องการใช้เพื่อนำไปผลิตสารที่มีชื่อว่ากลูต้าไธโอน กลูต้าไธโอนช่วยล้างพิษตับจากสารเคมีอันตรายต่างๆ บีบน้ำเลมอนสักลูกผสมกับน้ำสะอาดแล้วดื่มทุกวันเป็นประจำช่วยล้างพิษในร่างกายได้

14. สาหร่ายทะเล
สาหร่ายทะเลเป็นพืชที่มักจะถูกละเลยในโลกตะวันตก จากการศึกษาที่มหาวิทยาลัย McGill ในมอนทรีออล พบว่าสาหร่ายทะเลช่วยดักจับสารกัมมันตรังสีในร่างกายได้ อีกทั้งยังดักจับโลหะหนักแล้วขจัดออกไปจากร่างกาย นอกเหนือจากนี้ในสาหร่ายทะเลยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุอีกเป็นจำนวนมากด้วย

15. ผักวอเตอร์เครส (สลัดน้ำ)
ถ้ายังไม่เคยทานผักวอเตอร์เครส อาจลองชิมด้วยการนำไปทำแซนวิชดูได้ ผักชนิดนี้เพิ่มเอนไซม์ที่ช่วยในการล้างพิษและเซลล์มะเร็งออกไปจากร่างกายด้วย จากการศึกษาในศูนย์วิจัยอาหาร Norwich ในประเทศอังกฤษ พบว่าผู้ที่สูบบุหรี่ที่ทานวอเตอร์เครส 170 กรัมต่อวันจะขจัดสารก่อมะเร็งผ่านออกมาทางปัสสาวะได้มากกว่าระดับปกติที่เคยขับออกมาจากร่างกาย

การกินผักและผลไม้ที่หลากหลายจัดเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมในการล้างเอาสารพิษที่เป็นอันตรายออกไปจากร่างกาย อีกทั้งมันยังอร่อยถูกปากรสชาติดีอีกด้วยนะ

ที่มา: health-th.com

หากท่านใตต้องการสร้างแบรนด์หรือสั่งผลิต ผลิตภัณฑ์คุณภาพผสานนวัตกรรมและสารสกัดจากธรรมชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ บริษัท สเปเชียลตี้ อินโนเวชั่น เราคือผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา เพื่อสรรสร้างผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอาง อาหารเสริม และยาแผนโบราณ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้ง มาตรฐาน LEED อาคารสีเขียว เป็นบริษัทแห่งแรกและแห่งเดียวที่สามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูก ผลิต จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ด้านการวิจัยและพัฒนาระดับมืออาชีพ  เพียงคุณนำความฝันของคุณมาหาเรา เราพร้อมสร้างแบรนด์ให้คุณได้อย่างมีคุณภาพ และประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืน